ระเบียบสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2546


ระเบียบสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการพ.ศ. ๒๕๔๖


เพื่อให้การบริหาร การจัดระบบ การขอ การอนุญาต และการบริการข้อมูลข่าวสารของราชการที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบราชการเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจึงออกระเบียบไว้ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ ระเบียบสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๖”

ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป

ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ และคำสั่งอื่นใดของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีในส่วนที่กำหนดไว้แล้วในระเบียบนี้หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ให้ใช้ระเบียบนี้แทน

ข้อ ๔ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับแก่ข้าราชการ ลูกจ้าง และผู้ซึ่งมาช่วยปฏิบัติงานของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี

ข้อ ๕ ในระเบียบนี้
“ข้อมูลข่าวสาร” หมายความว่า สิ่งที่สื่อความหมายให้รู้เรื่องราวข้อเท็จจริง ข้อมูล หรือสิ่งใด ๆ ตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี“ส่วนราชการ” หมายความว่า กระทรวง ทบวง กรม และให้หมายความรวมถึงรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานหรือองค์กรของรัฐ
“เจ้าหน้าที่ประสานงานภายใน” หมายความว่า ผู้ปฏิบัติงานด้านเลขานุการให้แก่ผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรี รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และที่ปรึกษาประจำสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และให้หมายความรวมถึงผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวด้วย
“เจ้าหน้าที่ประสานงานภายนอก” หมายความว่า ผู้ปฏิบัติงานด้านเลขานุการให้แก่ข้าราชการการเมืองตำแหน่งรัฐมนตรี หรือให้แก่ผู้ที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีกำหนด และให้หมายความรวมถึงผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวด้วย

ข้อ ๖ ให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีรักษาการตามระเบียบนี้ และให้มีอำนาจตีความและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้ ในกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตามระเบียบนี้ได้ ให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรี มีอำนาจวินิจฉัยสั่งการตามที่เห็นสมควรหมวด ๑คณะกรรมการบริหารข้อมูลข่าวสาร

ข้อ ๗ ให้มี “คณะกรรมการบริหารข้อมูลข่าวสารในสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี” เรียกโดยย่อว่า “กขส.” ประกอบด้วยรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอื่นเป็นรองประธานกรรมการ ที่ปรึกษาประจำสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ผู้อำนวยการสำนัก และผู้อำนวยการกอง เป็นกรรมการให้ผู้อำนวยการกลุ่มงานบริหารงานมติคณะรัฐมนตรี สำนักบริหารงานสารสนเทศ เป็นกรรมการและเลขานุการผู้อำนวยการกลุ่มงานราชกิจจานุเบกษา สำนักนิติธรรม และหัวหน้าฝ่ายบริหารทั่วไป กองกลาง เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

ข้อ ๘ ให้ กขส. มีอำนาจและหน้าที่ดังต่อไปนี้
(๑) เสนอนโยบายหรือมาตรการเกี่ยวกับการบริหาร การจัดระบบ การขอ การอนุญาต และการบริการข้อมูลข่าวสาร
(๒) ให้คำแนะนำหรือเสนอความเห็นเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารที่ลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา รวมทั้งการจัดพิมพ์และการเผยแพร่
(๓) ให้คำแนะนำหรือเสนอความเห็นเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีดำเนินการ การพิจารณาประเภทข้อมูลข่าวสาร
ที่ไม่ต้องเปิดเผย หรือข้อมูลข่าวสารที่เป็นความลับของราชการ
(๔) ให้คำแนะนำหรือเสนอความเห็นเกี่ยวกับประเภทข้อมูลข่าวสารที่ควร จัดเก็บไว้ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีหรือส่งไปยังหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร หรือหน่วยงานอื่นของรัฐที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ
(๕) ให้คำแนะนำหรือเสนอความเห็นเกี่ยวกับการจัดทำและปรับปรุงข้อมูลข่าวสารตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ หรือข้อมูลข่าวสารอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อราชการ
(๖) ให้คำแนะนำหรือเสนอความเห็นเกี่ยวกับการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารภายในของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีกับส่วนราชการและประชาชน
(๗) ให้คำแนะนำหรือเสนอความเห็นในกรณีที่มีปัญหาและอุปสรรคเกี่ยวกับการดำเนินการตามระเบียบนี้
(๘) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อปฏิบัติการในเรื่องใด ๆ ตามที่ กขส. มอบหมาย
(๙) เชิญบุคคลใด ๆ มาสอบถามหรือให้ชี้แจงแสดงความเห็นเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสาร
(๑๐) การดำเนินงานอื่นใดตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีมอบหมาย ข้อ ๙ การประชุม กขส. ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมด จึงเป็นองค์ประชุม ถ้าประธานกรรมการและรองประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อยู่ในที่ประชุมให้กรรมการที่มาประชุม เลือกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุมการวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด

ข้อ ๑๐ ให้นำความในข้อ ๙ มาใช้บังคับกับการประชุมของคณะอนุกรรมการที่ กขส. แต่งตั้งโดยอนุโลม

ข้อ ๑๑ มติของ กขส. ต้องได้รับความเห็นชอบจากเลขาธิการคณะรัฐมนตรีก่อน จึงจะดำเนินการตามมตินั้นได้ หมวด ๒ การจัดระบบข้อมูลข่าวสาร

ข้อ ๑๒ ให้หน่วยงานในสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจัดประเภทข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความรับผิดชอบให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ กฎหมายอื่นและระเบียบของราชการ

ข้อ ๑๓ ในการดำเนินงานตามข้อ ๑๒ ให้หน่วยงานในสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจัดให้มีเจ้าหน้าที่เพื่อควบคุมดูแลตรวจสอบ ติดตามและประสานงานในการดำเนินงานดังกล่าวให้เป็นไป ด้วยความเรียบร้อย หมวด ๓ การขอข้อมูลข่าวสารและการอนุญาต

ข้อ ๑๔ ให้ส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของส่วนราชการ หรือ บุคคลที่ประสงค์จะเข้าตรวจดู ศึกษาค้นคว้าหรือขอสำเนาข้อมูลข่าวสาร ทำหนังสือหรือยื่นคำขอเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมทั้งแสดงเหตุผลและความจำเป็นต่อเลขาธิการคณะรัฐมนตรีหรือผู้มีอำนาจอนุญาตสำหรับกรณีจำเป็นหรือเร่งด่วน เจ้าหน้าที่ประสานงานภายในหรือเจ้าหน้าที่ประสานงานภายนอก อาจขอด้วยวาจาหรือทางโทรสารก็ได้ โดยให้แจ้งชื่อ ตำแหน่งและที่อยู่ของ ผู้ขอด้วยการขอข้อมูลข่าวสารและการอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ท้ายระเบียบนี้ข้อ ๑๕ การขอข้อมูลข่าวสารตามหมายเรียกพยานเอกสารของศาล ให้นำเสนอเลขาธิการคณะรัฐมนตรีหรือผู้ได้รับมอบหมายพิจารณาอนุญาต และให้ข้าราชการผู้รับผิดชอบ ตั้งแต่ระดับ ๕ ขึ้นไป เป็นผู้รับรองสำเนาข้อมูลข่าวสารข้อ ๑๖ ข้อมูลข่าวสารใด หากมีกฎหมาย ระเบียบอื่น หรือมติคณะรัฐมนตรีกำหนดวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารนั้นไว้เป็นพิเศษ การขอข้อมูลข่าวสารและการอนุญาต จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ หรือมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวด้วย หมวด ๔ การบริการข้อมูลข่าวสาร

ข้อ ๑๗ ให้หน่วยงานในสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรวบรวม จัดเตรียม และจัดให้มีข้อมูลข่าวสารที่ดำเนินการเสร็จแล้วและอยู่ในความรับผิดชอบ เพื่อเผยแพร่ ขาย จำหน่ายจ่ายแจก ตรวจดู และศึกษาค้นคว้า ตลอดจนจัดหาและจัดทำสำเนาข้อมูลข่าวสารดังกล่าวตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการการบริการข้อมูลข่าวสารนอกจากที่กล่าวในวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามคำแนะนำหรือความเห็นของ กขส.

ข้อ ๑๘ ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ให้ถือปฏิบัติตามข้อ ๑๗ โดยอนุโลม เว้นแต่เป็นเรื่องลับตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ หรือเป็นเรื่องที่ไม่ต้องเปิดเผยตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ หรือผู้ที่มีอำนาจอนุญาตตามข้อ ๑๔ เห็นว่าเป็นเรื่อง ที่ไม่ต้องเปิดเผย

ข้อ ๑๙ ข้อมูลข่าวสารที่มีไว้เพื่อขายหรือจำหน่าย ให้คิดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ตามหลักเกณฑ์ที่ กขส. กำหนด

ข้อ ๒๐ การเรียกค่าธรรมเนียมการเข้าตรวจดู ขอสำเนา หรือขอสำเนาที่มีคำรับรองถูกต้องของข้อมูลข่าวสารให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ กขส. กำหนด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการการรับรองสำเนาข้อมูลข่าวสารตามวรรคหนึ่ง ให้ข้าราชการที่รับผิดชอบข้อมูลข่าวสารนั้นตั้งแต่ระดับ ๓ หรือเทียบเท่าขึ้นไปเป็นผู้รับรอง โดยลงลายมือชื่อ พร้อมทั้งชื่อตัว ชื่อสกุล และตำแหน่ง ตลอดจนวัน เดือน ปี ให้ชัดเจน ทั้งนี้ ให้รับรอง
ตามจำนวนที่ผู้ยื่นคำขอขอให้รับรอง

ข้อ ๒๑ รายได้จากการขายหรือจำหน่ายข้อมูลข่าวสารตามข้อ ๑๙ และค่าธรรมเนียมตามข้อ ๒๐ ให้ปฏิบัติตามระเบียบของราชการข้อ ๒๒ การบริการส่งข้อมูลข่าวสารที่เปิดเผยทางโทรสาร ให้ดำเนินการได้เฉพาะกรณีเร่งด่วน โดยให้คำนึงถึงความสิ้นเปลือง เช่น จำนวนข้อมูลข่าวสาร ระยะเวลา ค่าใช้จ่ายในการส่ง ทั้งนี้ ให้ผู้อำนวยการกองหรือผู้อำนวยการสำนักขึ้นไปเป็นผู้พิจารณาอนุญาต หมวด ๕ สถานที่บริการข้อมูลข่าวสาร

ข้อ ๒๓ ให้หน่วยงานในสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีควบคุมดูแลข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความรับผิดชอบให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของราชการ และจัดสถานที่บริการข้อมูลข่าวสาร ดังนี้
(๑) สำนักบริหารงานสารสนเทศ เป็นสถานที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลข่าวสาร หรือให้คำแนะนำในการติดต่อกับหน่วยงานของรัฐ โดยให้มีหน้าที่เพิ่มเติมดังต่อไปนี้
(ก) ให้บริการข้อมูลข่าวสารที่อยู่ระหว่างดำเนินการของหน่วยงานในสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและข้อมูลข่าวสารที่ดำเนินการเสร็จแล้ว
(ข) เป็นศูนย์ประสานงานกับหน่วยงานในสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อให้บริการข้อมูลข่าวสาร
(๒) สำนักนิติธรรม เป็นสถานที่ติดต่อและบริการราชกิจจานุเบกษาแก่สมาชิกและบุคคลทั่วไปประกาศ ณ วันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๖

จุลยุทธ หิรัณยะวสิต
(นายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต)
รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี รักษาราชการแทน
เลขาธิการคณะรัฐมนตรี

หมายเหตุ ประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๐ ตอนพิเศษ ๒๙ ง วันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๔๖

หลักเกณฑ์การขอข้อมูลข่าวสารและการอนุญาต

ประเภทของข้อมูลข่าวสาร

ผู้ขอ

ผู้อนุญาต

๑. ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ระหว่างดำเนินการ

๑.๑ ข้อมูลข่าวสารที่เปิดเผย

– ผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองหรือเทียบเท่าขึ้นไปของส่วนราชการ
– เจ้าหน้าที่ประสานงานภายใน
– เจ้าหน้าที่ประสานงานภายนอก
– ข้าราชการของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตั้งแต่ระดับ ๗ ขึ้นไป
– บุคคลทั่วไป

– ผู้อำนวยการกอง/สำนักเจ้าของเรื่องขึ้นไป

๑.๒ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ต้องเปิดเผยหรือเป็นความลับของราชการ

๑.๒.๑ ข้อมูลข่าวสารที่จะต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรี

– หัวหน้าส่วนราชการ
– เจ้าหน้าที่ประสานงานภายใน
– เจ้าหน้าที่ประสานงานภายนอก
– ข้าราชการของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกอง/สำนัก ขึ้นไป
– บุคคลทั่วไป

– เลขาธิการคณะรัฐมนตรี หรือรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี หรือที่ปรึกษาประจำสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เว้นแต่ข้อมูลข่าวสารลับที่สุดให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นผู้อนุญาต

๑.๒.๒ ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรี

– หัวหน้าส่วนราชการ
– เจ้าหน้าที่ประสานงานภายใน
– เจ้าหน้าที่ประสานงานภายนอก
– ข้าราชการของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตั้งแต่ระดับ ๘ ขึ้นไป
– บุคคลทั่วไป

– ผู้อำนวยการกอง/สำนักเจ้าของเรื่องขึ้นไป เว้นแต่ข้อมูลข่าวสารลับที่สุด ให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นผู้อนุญาต

๒. ข้อมูลข่าวสารที่ดำเนินการเสร็จแล้ว

๒.๑ ข้อมูลข่าวสารที่เปิดเผย

๒.๑.๑ ข้อมูลข่าวสารที่ลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา และหนังสือเวียนกระทรวง ทบวง กรม

– ข้าราชการ พนักงานและลูกจ้างของส่วนราชการ
– เจ้าหน้าที่ประสานงานภายใน
– เจ้าหน้าที่ประสานงานภายนอก
– บุคคลทั่วไป

– ข้าราชการตั้งแต่ระดับ ๕ ขึ้นไป

๒.๑.๒ ข้อมูลข่าวสารนอกจาก ๒.๑.๑

– ผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองหรือเทียบเท่าขึ้นไปของส่วนราชการ
– เจ้าหน้าที่ประสานงานภายใน
– เจ้าหน้าที่ประสานงานภายนอก
– ข้าราชการของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตั้งแต่ระดับ ๖ ขึ้นไป
– บุคคลทั่วไป

– ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานสารสนเทศ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเว้นแต่ข้อมูลข่าวสารอยู่ในความครอบครองของกอง/สำนักที่เป็นเจ้าของเรื่อง ให้ผู้อำนวยการกอง/สำนักนั้นเป็นผู้อนุญาต
– เลขาธิการคณะรัฐมนตรี หรือรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี หรือที่ปรึกษาประจำสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี

๒.๒ ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ต้องเปิดเผยหรือเป็นความลับของราชการ

-หัวหน้าส่วนราชการ
– เจ้าหน้าที่ประสานงานภายใน
– เจ้าหน้าที่ประสานงานภายนอก
– ข้าราชการของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกอง/สำนัก ขึ้นไป
– บุคคลทั่วไป

– เลขาธิการคณะรัฐมนตรีหรือรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรีหรือที่ปรึกษาประจำสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเว้นแต่ข้อมูลข่าวสารลับที่สุดให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นผู้อนุญาต

หมายเหตุ
(๑) ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ระหว่างดำเนินการตาม ๑ และข้อมูลข่าวสารที่ดำเนินการเสร็จแล้วตาม ๒ หากข้อมูลข่าวสารทั้งสองประเภทรวมอยู่ในเรื่องเดียวกันการขอและการอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์สำหรับข้อมูลข่าวสารของแต่ละประเภทแล้วแต่กรณี
(๒) ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ระหว่างดำเนินการตาม ๑ และข้อมูลข่าวสารที่ดำเนินการเสร็จแล้วตาม ๒ ที่เจ้าหน้าที่ประสานงานภายในหรือเจ้าหน้าที่ประสานงานภายนอกขออนุญาตด้วยวาจาหรือทางโทรสาร เมื่อส่งมอบข้อมูลข่าวสารแล้วให้ระบุชื่อและตำแหน่งของผู้รับประกอบเรื่องไว้ด้วย
(๓) ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ระหว่างดำเนินการตาม ๑.๒ และข้อมูลข่าวสารที่ดำเนินการเสร็จแล้วตาม ๒.๒ หากเป็นข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลที่กฎหมายไม่อนุญาตให้เปิดเผยจะต้องได้ รับความยินยอมเป็นหนังสือจากเจ้าของข้อมูลนั้นก่อนจึงเปิดเผยได้

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของท่านได้โดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ (Functional Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ เพื่อจดจำตัวเลือกต่างๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรียังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และ ไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

บันทึกการตั้งค่า