คณะรัฐมนตรี คณะที่ ๕๒
คณะรัฐมนตรี คณะที่ ๕๒
พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี
ตั้งแต่วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๓๙ – ๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๐
แถลงนโยบายเมื่อวันพุธที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๓๙
คำแถลงนโยบายของรัฐบาล*
ท่านประธานรัฐสภาและท่านสมาชิกผู้มีเกียรติ
ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งให้กระผมเป็นนายกรัฐมนตรีตามประกาศพระบรมราชโองการ ลงวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๓๙ และแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีตามประกาศพระบรมราชโองการ ลงวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๓๙ นั้น
บัดนี้ คณะรัฐมนตรีได้กำหนดนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินเรียบร้อยแล้ว โดยมีเป้าหมายหลักของการบริหารราชการแผ่นดินที่จะเทิดทูน และยึดมั่นในการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะสถาปนาความเชื่อมั่นทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม สรรค์สร้างความสมัครสมานสามัคคีและนำมาซึ่งการอยู่ดีกินดีของประชาชน จะเร่งรัดผลักดันการปฏิรูปการเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนด จะเร่งสร้างฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและพัฒนาศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลก รวมทั้งให้มีการกระจายประโยชน์ของการขยายตัวทางเศรษฐกิจไปสู่ประชาชนทุกกลุ่ม จะผลักดันให้มีการปรับทัศนคติ และระบบการทำงานของภาครัฐจากการปกครองประชาชนมาเป็นการให้บริการที่ดีแก่ประชาชน และปรับระบบการทำงานของภาครัฐจากที่เป็นผู้คิดเองทำเองมาเป็นระบบที่ร่วมคิดร่วมทำกับภาคเอกชนและประชาชน โดยให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมและมีสิทธิโต้แย้งคัดค้านการที่ไม่ถูกต้องของเจ้าหน้าที่ของรัฐขณะเดียวกันจะส่งเสริมและรณรงค์ให้ประชาชนในชาติมีวินัย พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ได้รับการบริการที่ดี มีการศึกษาที่ได้มาตรฐาน มีความสมบูรณ์ทั้งทางร่างกาย จิตใจและสติปัญญาและอยู่ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ดี
คณะรัฐมนตรีจึงกำหนดนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินไว้ ๑๑ ด้าน โดยมีรายละเอียด
ของนโยบายดังต่อไปนี้
๑. นโยบายด้านการเมือง
รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะเทิดทูนและรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยจะดำเนินการ
๑.๑ เร่งรัดผลักดันการปฏิรูปการเมือง โดยสนับสนุนให้สภาร่างรัฐธรรมนูญมีอิสระในการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
๑.๒ ส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชน องค์กรเอกชนและสื่อสารมวลชนมีส่วนร่วมในการเสนอแนะและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
๑.๓ เร่งรัดผลักดันให้มีกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง และให้มีศาลปกครองขึ้นเป็นเอกเทศจากระบบศาลยุติธรรมโดยสอดคล้องกับบทบัญญัติและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
๑.๔ ส่งเสริมและสนับสนุนรัฐสภาและพรรคการเมืองให้เป็นสถาบันที่มีความ เข้มแข็งและเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของประชาชน
๒. นโยบายด้านการบริหาร
รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินและพัฒนากฎหมายให้สอดคล้องกับการพัฒนาทางการเมือง การบริหาร เศรษฐกิจ และสังคมในปัจจุบัน และวางรากฐานสำหรับการพัฒนาประเทศในอนาคตเพื่อเผชิญกับยุตโลกาภิวัฒน์ โดยจะดำเนินการ
๒.๑ นโยบายด้านการบริหารราชการแผ่นดินและการบริการประชาชน
๒.๑.๑ ปรับลดบทบาทของรัฐจากที่เป็นผู้ดำเนินการมาเป็นผู้วางกฎเกณฑ์ กำกับดูแล รักษากติกาวางแผน และประสานงาน และส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามาเป็นผู้ลงทุนและดำเนินการแทนในกิจการที่รัฐไม่มีความจำเป็นต้องดำเนินการเอง
๒.๑.๒ ปรับโครงสร้างหน่วยงานของรัฐให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันและสนองตอบต่อเป้าหมายในการพัฒนาประเทศ
๒.๑.๓ ปรับปรุงกลไกและวิธีการบริหารงบประมาณแผ่นดินให้การจัดสรรงบประมาณตอบสนองต่อนโยบายและเป้าหมายให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
๒.๑.๔ ผลักดันให้มีการปรับทัศนคติและระบบการทำงานของภาครัฐจากการปกครองประชาชนมาเป็นการให้บริการที่ดีแก่ประชาชน รวมทั้งพัฒนาประสิทธิภาพการบริการของรัฐให้เป็นที่พอใจของประชาชน
๒.๑.๕ ส่งเสริมและสนับสนุนให้หน่วยงานของรัฐนำอุปกรณ์และเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติภารกิจหน้าที่และในการให้บริการประชาชน จัดทำระบบฐานข้อมูลทุกระดับตั้งแต่ระดับท้องถิ่น จังหวัด และระดับชาติ และสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงฐานข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ
๒.๑.๖ พัฒนาบุคลากรภาครัฐให้มีสมรรถนะสูงขึ้นและให้ได้รับเงินเดือน สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ สัมพันธ์กับคุณภาพของงานและสอดคล้องกับภาวะค่าครองชีพ เพื่อให้สามารถอยู่ในสังคมอย่างสมฐานะ มีเกียรติ และศักดิ์ศรี
๒.๒ นโยบายด้านการกระจายอำนาจการปกครองสู่ท้องถิ่น
๒.๒.๑ ปรับปรุงโครงสร้างขององค์กรปกครองท้องถิ่นให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกัน เร่งรัดการกระจายภารกิจหน้าที่ให้แก่องค์กรปกครองท้องถิ่นมากขึ้น และถ่ายเทบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาคไปสู่องค์กรปกครองท้องถิ่นตามความเหมาะสม
๒.๒.๒ เร่งรัดการกระจายรายได้ให้องค์กรปกครองท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้นอย่างเป็นขั้นตอนและเพียงพอที่จะบริหารกิจการตามอำนาจหน้าที่ของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเร็ว
๒.๓ นโยบายด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน
๒.๓.๑ ให้ประชาชนมีสิทธิรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกิจการของรัฐ และการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
๒.๓.๒ ให้มีการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะโดยวิธีประชาพิจารณ์ในปัญหาสำคัญของชาติ
๒.๓.๓ ให้ประชาชนและสื่อสารมวลชนสามารถตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐได้มากยิ่งขึ้น
๒.๔ นโยบายด้านการอำนวยความยุติธรรม
๒.๔.๑ ลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาลโดยการจัดตั้งระบบงานระงับข้อพิพาทและข้อขัดแย้งในสังคมโดยการไกล่เกลี่ยหรือประนอมข้อพิพาท และโดยวิธีอนุญาโตตุลาการ
๒.๔.๒ ให้บริการช่วยเหลือทางด้านกฎหมายแก่ประชาชน และสนับสนุนบทบาทของทนายความในการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน
๒.๔.๓ พัฒนาบุคลากรและกระบวนการวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐให้มีประสิทธิภาพ รวดเร็วและทั่วถึง เพื่อรองรับสิทธิของบุคคลในการร้องทุกข์ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
๒.๕ นโยบายด้านการปรับปรุงบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
ปรับปรุงระบบกฎหมายให้สอดคล้องกับการพัฒนาทางการเมือง การบริหาร เศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน และวางรากฐานสำหรับการพัฒนาในอนาคต รวมทั้งให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง
๓. นโยบายด้านเศรษฐกิจ
รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะดำเนินนโยบายสร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีเสถียรภาพ ลดช่องว่างและขจัดความยากจนในประเทศให้ลดน้อยลงยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนไทยและต่างประเทศ โดยจะดำเนินการ
๓.๑ นโยบายด้านการเงินการคลัง
รัฐบาลจะรักษาระเบียบวินัยทางการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด และจะดำเนินนโยบายการเงินการคลังให้สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาประเทศในด้านอื่น ๆ ตลอดจนพัฒนาตลาดการเงินและตลาดทุน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาคนี้ โดยจะดำเนินการ
๓.๑.๑ ส่งเสริมให้มีการลงทุนในระบบเศรษฐกิจในระดับที่เหมาะสมทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะการลงทุนเพื่อเพิ่มผลผลิตและแหล่งงานของประเทศ
๓.๑.๒ ระดมเงินออมภายใต้ประเทศทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคครัวเรือนด้วยมาตรการจูงใจและมาตรการเร่งรัดเพื่อลดช่องว่างระหว่างเงินออมและเงินลงทุนให้ต่ำลงและลดการพึ่งพาแหล่งเงินกู้ต่างประเทศ
๓.๑.๓ รักษาเสถียรภาพของระดับราคาผู้บริโภคและควบคุมดูแลการใช้จ่ายเงินภาครัฐให้อยู่ในระดับที่ไม่กดดันต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
๓.๑.๔ แก้ไขปัญหาการขาดดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดให้มีระดับต่ำลง ด้วยมาตรการทั้งในด้านการเพิ่มแหล่งรายได้และเงินตราต่างประเทศ รวมทั้งลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นหรือการลงทุนที่ไม่มีประสิทธิภาพ
๓.๑.๕ เร่งรัดฟื้นฟูแก้ไขภาคเศรษฐกิจที่มีปัญหาโดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ด้อยประสิทธิภาพการแข่งขัน การเกษตรที่ผลผลิตต่ำ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจการเงินโดยคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนผู้บริโภค รวมทั้งจะดูแลรักษาสภาพคล่องทางการเงินภายในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและมีเสถียรภาพ
๓.๑.๖ เปิดเสรีและผ่อนคลายข้อจำกัดทางการเงินอย่างเป็นขั้นตอน และในระยะเวลาที่เหมาะสม ทั้งในด้านธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ บริษัทประกันภัยและประกันชีวิต และสถาบันการเงินอื่น ๆ
๓.๑.๗ สนับสนุนให้สถาบันการเงินมีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาหนี้สินนอกระบบกระจายรายได้ กระจายแหล่งงาน และกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น
๓.๑.๘ พัฒนาตลาดการเงิน ตลาดทุนและตลาดเงินตราต่างประเทศให้มี ประสิทธิภาพและเป็นสากลภายใต้การกำกับดูแลที่เหมาะสม
๓.๒ นโยบายด้านการค้าภายในประเทศและต่างประเทศ
รัฐบาลจะดำเนินการให้ราคาและคุณภาพสินค้าอุปโภคบริโภคมีความเป็นธรรมต่อผู้บริโภค ดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดไม่ก่อให้เกิดปัญหาเสถียรภาพต่อระบบเศรษฐกิจและจะเพิ่มพูนศักยภาพของประเทศไทยในการแข่งขัน โดยจะดำเนินการ
๓.๒.๑ แก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพงและคุณภาพต่ำด้วยการเปิดเสรีและส่งเสริมการแข่งขันในระบบตลาดภายใน เร่งมาตรการเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนการผลิตสินค้าโดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหารและสินค้าจำเป็น ตลอดจนคุ้มครองดูแลผู้อุปโภคบริโภคให้ได้รับผลประโยชน์จากการแข่งขัน
๓.๒.๒ รักษาระดับราคาพืชผลให้มีความเป็นธรรมต่อผู้ผลิตด้วยมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการขายทั้งในและต่างประเทศด้วยมาตรการแทรกแซงด้านการตลาด
๓.๒.๓ เสริมสร้างศักยภาพของประเทศในการแข่งขันกับต่างประเทศด้วยการเพิ่มประสทิธิภาพการผลิต การขนส่งและการตลาด ส่งเสริมภาคบริการที่มีความสำคัญต่อการค้าและการลงทุน ปรับปรุงกฎระเบียบทางธุรกิจให้เป็นสากลและสะดวกคล่องตัว
๓.๓ นโยบายด้านอุตสาหกรรม
รัฐบาลจะดำเนินการพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทยนตลาดโลก โดยจะดำเนินการ
๓.๓.๑ ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการตั้งนิคมอุตสาหกรรมและเขตอุตสาหกรรมส่งออกในชนบท
๓.๓.๒ ฟื้นฟูอุตสาหกรรมดั้งเดิมให้คงอยู่ได้ด้วยการปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิตและสนับสนุนใหมีการลงทุนอย่างเต็มที่ในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพที่แข่งขันได้ในเศรษฐกิจยุคใหม่และในอุตสาหกรรมสนับสนุน
๓.๓.๓ ยกระดับศักยภาพในการแข่งขันของอุตสาหกรรมส่งออกหลักของประเทศ
๓.๓.๔ ควบคุมมลพิษที่เกิดจากอุตสาหกรรมให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด
๓.๓.๕ สนับสนุนการจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาคุณภาพสินค้าอุตสาหกรรม
๓.๔ นโยบายด้านเกษตรกรรม
รัฐบาลจะดำเนินการพัฒนาศักยภาพและความเป็นอยู่ของเกตรกร และสร้างโอกาสการมีงานทำโดยมุ่งปรับโครงสร้างการเกษตรตามแนวทางเกษตรยั่งยืน ตลอดจนสนับสนุนให้มีการนำผลิตผลทางการเกษตรมาสร้างให้เกิดมูลค่าเพิ่มโดยระบบอุตสาหกรรมการเกษตร โดยจะดำเนินการ
๓.๔.๑ ส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้นด้วยการปลูกพืชเศรษฐกิจตามความต้องการของตลาด ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิตต่อหน่วย ยกระดับราคาผลผลิตทางการเกษตรให้เป็นธรรมต่อเกษตรกร ส่งเสริมให้เกษตรกรมีอาชีพเสริมนอกภาคเกษตร สนับสนุนข้อมูลข่าวสารการเกษตร และปรับย้ายแรงงานภาคเกษตรให้ไปอยู่ในภาคอื่นตามความเหมาะสม รวมทั้งเร่งรัดแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกร ตลอดจนจัดทำแผนการปรับตัวภาคเกษตรให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของตลาดสินค้าเกษตรในอนาคต
๓.๔.๒ เร่งรัดการปฏิรูปที่ดินให้แก่เกษตรกรผู้ยากจนและไม่มีที่ดินทำกินเพียงพอตามเจตนารมณ์ของกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
๓.๔.๓ จัดหาน้ำเพื่อการเกษตรและการอุปโภคบริโภคให้มีเพียงพอและทั่วถึงและจัดทำแผนแม่บทการชลประทานเพื่อวางแผนการจัดหาน้ำให้แก่เกษตรในระยะยาว
๓.๔.๔ แก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรทั้งในระบบและนอกระบบด้วยการจัดสรรเงินสนับสนุนเพื่อเปลี่ยนหนี้ให้เข้าสู่ระบบ ตลอดจนสนับสนุนสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ เงื่อนไขผ่อนปรนและขยายเวลาการชำระหนี้ให้เหมาะสม
๓.๔.๕ สนับสนุนให้สหกรณ์การเกษตรมีการบริหารและการจัดการที่มีประสิทธิภาพและเป็นองค์กรสร้างรายได้แก่เกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม
๓.๔.๖ ฟื้นฟูทรัพยากรประมงในน่านน้ำไทย ส่งเสริมและพัฒนาการประมงนอกน่านน้ำไทยและส่งเสริมการเพาะเลี้ยงชายฝั่งและสัตว์น้ำจืดที่มีความคัญต่อเศรษฐกิจ รวมทั้งสนับสนุนการปรับปรุงเครื่องมือประมงเพื่อไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศน์ชายฝั่ง
๓.๔.๗ ส่งเสริมและสนับสนุนการเลี้ยงและบำรุงพันธุ์ปศุสัตว์ให้มีคุณภาพและเพิ่มผลผลิต รวมทั้งป้องกันและแก้ไขโรคสัตว์ ตลอดจนสนับสนุนให้มีการแปรรูปเพื่อการบริโภคและการส่งออกอย่างครบวงจร
๓.๕ นโยบายด้านการขนส่งและการสื่อสาร
รัฐบาลจะดำเนินการกระจายเครือข่ายการขนส่งทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศและการสื่อสารให้ทั่วถึง โดยจะดำเนินการ
๓.๕.๑ การขนส่งทางบก
๓.๕.๑.๑ พัฒนา ปรับปรุง และขยายเครือข่ายทางหลวงและเส้นทางการขนส่งระหว่างกรุงเทพมหานครกับจังหวัดต่าง ๆ และระหว่างจังหวัดในทุกภาคของประเทศ โดยเร่งรัดให้มีการก่อสร้างขยายถนนทั้งในแนวราบและแนวยกระดับระหว่างภาครัฐและระหว่าง จังหวัดที่มีการจราจรหนาแน่น
๓.๕.๑.๒ ปรับปรุงเส้นทางรถไฟสายหลักให้เป็นทางคู่ขนาน และให้มีการนำรถไฟความเร็วสูงมาใช้ในเส้นทางที่เหมาะสม
๓.๕.๑.๓ เร่งรัดการจัดสร้างเครือข่ายการขนส่งทางรถยนต์และรถไฟกับ ประเทศเพื่อนบ้าน
๓.๕.๒ การขนส่งทางน้ำ
๓.๕.๒.๑ เร่งรัดให้มีการใช้ท่าเรือน้ำลึกในเขตพัฒนาชายฝั่งทะเลตะวันออกอย่างเต็มที่ และเร่งรัดการก่อสร้างและการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกในพื้นที่อื่น ๆที่เหมาะสม ตลอดจนประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและใช้ท่าเรือน้ำลึก
๓.๕.๒.๒ ส่งเสริมและจัดระบบการจราจรและการขนส่งทางน้ำ
๓.๕.๒.๓ ส่งเสริมการพาณิชย์นาวีอย่างจริงจัง ฟื้นฟูระบบการขนส่งชายฝั่งทะเลและสนับสนุนกิจการอู่เรือ รวมทั้งพัฒนาบุคลากรด้านพาณิชย์นาวีให้เพียงพอและได้มาตรฐานสากล
๓.๕.๓ การขนส่งทางอากาศ
๓.๕.๓.๑ เร่งรัดการก่อสร้างและปรับปรุงสนามบินภายในประเทศและระหว่างระเทศให้ทันสมัย ตามความจำเป็นและเหมาะสม
๓.๕.๓.๒ ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการจัดตั้งสายการบินเพิ่มขึ้น เร่งรัดการจัดตั้งศูนย์ซ่อมเครื่องบินขนาดใหญ่และศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศนานาชาติ ตลอดจนปรับปรุงประสิทธิภาพในการบริหารงานของสายการบินแห่งชาติให้มีคุณภาพในการให้บริการมากยิ่งขึ้น
๓.๕.๓.๓ เพิ่มขีดความสามารถในการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานและเรือที่ประสบภัย
๓.๕.๔ การสื่อสาร
๓.๕.๔.๑ พัฒนา ปรับปรุง และขยายบริการสื่อสารไปรษณีย์และโทรคมนาคมให้สามารถบริการประชาชนได้ทั่วถึงทั้งประเทศ
๓.๕.๔.๒ เร่งรัดขยายบริการโทรศัพท์ให้มีจำนวนเพียงพอกับความต้องการและขยายโทรศัพท์ทางไกลชนบทให้ทั่วถึงทุกหมู่บ้าน
๓.๕.๔.๓ เร่งรัดให้มีแผนแม่บทการพัฒนากิจการโทรคมนาคมและ ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกัน
๓.๖ นโยบายด้านพลังงาน
รัฐบาลจะดำเนินการให้มีพลังงานเพียงพอกับความต้องการ มีระดับราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม โดยจะดำเนินการ
๓.๖.๑ ส่งเสริมและรณรงค์ให้มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสนับสนุนให้มีการผลิตเครื่องใช้พลังงานประสิทธิภาพสูงที่ช่วยให้เกิดการประหยัดพลังงาน ตลอดจนศึกษาความเป็นไปได้ในการนำพลังงานอื่น ๆ มาใช้ทดแทน
๓.๖.๒ พัฒนาระบบการขนส่งน้ำมันและแก๊สทางท่อให้กระจายสู่ภูมิภาคต่าง ๆ ให้มากขึ้นเพื่อลดต้นทุนการขนส่งและลดปัญหาการจราจร
๓.๖.๓ ส่งเสริมให้มีการแข่งขันในกิจการพลังงานมากขึ้นบนพื้นฐานที่เท่าเทียมกัน
๓.๗ นโยบายด้านการท่องเที่ยว
รัฐบาลจะส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้สามารถทำรายได้เข้าประเทศมากขึ้น ควบคู่ไปกับการธำรงรักษาศิลปวัฒนธรรมและทรัพยากรธรรมชาติอันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีค่ายิ่ง โดยจะดำเนินการ
๓.๗.๑ เสริมสร้างค่านิยมให้ประชาชนท่องเที่ยวประเทศมากขึ้น โดยให้กระจายไปทั่วทุกภูมิภาคตลอดปี
๓.๗.๒ ส่งเสริมการอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรการท่องเที่ยวในทิศทางยั่งยืนให้สามารถรองรับการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวในระยะยาว
๓.๗.๓ พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้สามารถเข้าถึงได้โดยสะดวก ปลอดภัย มีความสวยงามและเป็นที่ประทับใจของนักท่องเที่ยวตลอดไป
๓.๗.๔ ส่งเสริมและพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้โดยร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการขยายโครงข่ายสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานและการบริการต่าง ๆ รวมทั้งส่งเสริมการผลิตบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้มีปริมาณสอดคล้องกับความต้องการของตลาดและมีคุณภาพได้มาตรฐานในระดับนานาชาติ
๔. นโยบายด้านต่างประเทศ
รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะดำเนินนโยบายต่างประเทศอย่างเป็นอิสระและมีเอกภาพ โดยจะดำเนินการ
๔.๑ เสริมสร้างสันติภาพ เสถียรภาพและความมั่นคงในเอเชีย และสนับสนุนการสร้างสันติภาพของโลก
๔.๒ ขจัดปัญหา อุปสรรค และขยายความสัมพันธ์ในทุกด้านกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศไทย
๔.๓ ดำเนินนโยบายที่ช่วยเหลือเสริมสร้างและเกื้อกูลให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์จากการเจรจาพหุพาคีด้านเศรษฐกิจทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาค โดยเน้นการทูตเพื่อขยายผลประโยชน์ของไทยในการเจรจาแก้ไขปัญหาและกฎระเบียบในด้านการค้าและการลงทุน การส่งเสริมการส่งออก การดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ การสนับสนุนเอกชนไทยที่ทำธุรกิจในต่างประเทศและการส่งเสริมการท่องเที่ยว
๔.๔ เพิ่มบทบาทในองค์การระหว่างประเทศทุกระดับ
๔.๕ ให้ความร่วมมือกับนานาประเทศและองค์การระหว่างประเทศในการแก้ปัญหาซึ่งจะมีผลกระทบต่อมนุษยชาติ
๔.๖ เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของสถานทูตเพื่อการบริการประชาชนใน ต่างประเทศ
๔.๗ ขยายงานการส่งเสริมและเผยแพร่ประเทศไทย โดยเน้นความเป็นประชาธิปไตย
และคุณค่าที่ดีงามของสังคมไทยด้วยวิถีทางทางการทูตและการประชาสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพและทันต่อเหตุการณ์
๕. นโยบายด้านการศึกษา
รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพการศึกษาและขยายโอกาสให้ทั่วถึงคนทุกกลุ่ม เพื่อให้การศึกษาเป็นกระบวนการพัฒนาคนให้มีขีดความสามารถเต็มตามศักยภาพ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และเป็นแรงผลักดันที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรือง โดยจะดำเนินการ
๕.๑ ส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนทุกคนได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ๑๒ ปี โดยจะให้ความช่วยเหลือเป็นพิเศษแก่ผู้ยากจน ผู้ด้อยโอกาส และผู้บกพร่องทางร่างกายและปัญญาตามความจำเป็น
๕.๒ ขยายการจัดการศึกษาชั้นอนุบาลหรือก่อนประถมศึกษา เพื่อให้เด็กกลุ่มอายุ ๓ – ๕ ปี ได้เข้าเรียนอย่างทั่วถึง
๕.๓ ขยายการศึกษานอกระบบทั้งสายสามัญและสายอาชีพอย่างกว้างขวาง เพื่อให้ผู้ที่อยู่ในวัยแรงงานได้พัฒนาตนเองและได้รับการศึกษาพื้นฐานเพิ่มขึ้นถึงมัธยมศึกษาตอนปลายและอาชีวศึกษา
๕.๔ ปฏิรูปการอาชีวศึกษาเพื่อยกระดับคุณภาพให้สูงขึ้น โดยให้สถานศึกษาและสถานประกอบการร่วมมือกันจัดการศึกษาอย่างใกล้ชิด ปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน และเน้นการสร้างนิสัยความรับผิดชอบให้สูงขึ้น ตลอดจนพัฒนาวิทยาลัยเกษตรกรรมให้เป็นสถาบันทางการเกษตรและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อรองรับการพัฒนาการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรได้อย่างเต็มที่
๕.๕ ส่งเสริมให้ประชาชนและผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมรับผิดชอบการจัดการศึกษาอย่างใกล้ชิด
๕.๖ ส่งเสริมการพัฒนาโรงเรียนเอกชนเพื่อยกระดับคุณภาพให้ได้มาตรฐานผ่านกองทุนเงินกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำ และใช้บัตรการศึกษาสำหรับคนยากจนเพื่อสนับสนุนให้โรงเรียนเอกชนได้ช่วยแบ่งเบาภาระของรัฐเพิ่มมากขึ้น
๕.๗ ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งเร่งรัดแก้ไขปัญหาหนี้สินของครู
๕.๘ เพิ่มสัดส่วนงบประมาณเพื่อการลงทุนและการพัฒนาการศึกษาให้สูงขึ้น
๕.๙ ส่งเสริมให้สถาบันอุดมศึกษามีบทบาทในการวิจัยและพัฒนาในด้านต่าง ๆ รวมทั้งให้มีการจัดการศึกษาที่เน้นความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากยิ่งขึ้น
๕.๑๐ ขยายโอกาสอุดมศึกษาให้ผลิตบัณฑิตให้มีปริมาณและคุณภาพที่สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ รวมทั้งส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเพื่อแก้ไขปัญหาของท้องถิ่นและภูมิภาคและสร้างความเป็นเลิศทางวิชาการ
๖. ความเป็นเลิศทางวิชาการ
รัฐบาลมุ่งมั่นที่พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพของคนให้เป็นคนดี มีคุณธรรม มีระเบียบวินัยมีจิตสำนึกที่รับผิดชอบต่อตนเองและส่วนรวม มีสุขภาพพลานามัยที่ดี พัฒนาสภาพแวดล้อมทางสังคมให้มั่นคง ตลอดจนส่งเสริมวัฒนธรรมให้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของคนและเป็นพลังงานในการพัฒนาประเทศ โดยจะดำเนินการ
๖.๑ นโยบายด้านการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและการทำนุบำรุงศาสนา
๖.๑.๑ สืบทอดเอกลักษณ์ของความเป็นไทยและการสร้างสรรค์ศิลปวัฒนธรรมสาขาต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตปัจจุบันและอนาคต รวมทั้งสนับสนุนการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ และรับวัฒนธรรมต่างชาติมาอย่างเหมาะสม ตลอดจนให้มีศูนย์ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศที่สำคัญ
๖.๑.๒ ส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือระหว่างรัฐ ท้องถิ่น องค์กรเอกชน ประชาชนและสถาบันการศึกษาในการทำนุบำรุง พัฒนา และอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและโบราณสถาน ทั้งในระดับชาติและท้องถิ่น
๖.๑.๓ ส่งเสริมให้มีสื่อคุณภาพเพื่อถ่ายทอดและปลูกฝังค่านิยมที่ดีงาม เสริมสร้างความเสมอภาคระหว่างชายหญิงและกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ให้เกิดความเข้าใจและนำไปปฏิบัติร่วมกัน
๖.๑.๔ ส่งเสริมการศึกษาของพระสงฆ์ และพัฒนาการบริหารงานด้านศาสนาให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งส่งเสริมให้บุคลากรและสถานที่ทางศาสนาในการช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน
๖.๑.๕ สนับสนุนโครงการสร้างจริยธรรม คุณธรรมและวินัยของคนในชาติ เช่น โครงการลูกเสือ การฝึกนักศึกษาวิชาทหาร
๖.๒ นโยบายด้านสตรี เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส
๖.๒.๑ สนับสนุนบทบาทสตรีให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และการบริหารทุกระดับ รวมทั้งขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ
๖.๒.๒ ปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการกระทำผิดทางเพศต่อเด็กและสตรี และดำเนินการตามกฎหมายแก่ผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง ตลอดจนรณรงค์แก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว
๖.๒.๓ ส่งเสริมให้มีการช่วยเหลือและดูแลผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ถูกทอดทิ้งทางสังคมอย่างจริงจัง
๖.๒.๔ เสริมสร้างโอกาสให้กลุ่มผู้ด้อยโอกาสได้รับการคุ้มครองช่วยเหลือ และการบริการพื้นฐานทางสังคมทุกด้านอย่างเหมาะสม ทั่วถึง และเป็นธรรม
๖.๒.๕ ให้การสงเคราะห์และฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ด้อยโอกาสให้สามารถพึ่งตนเองได้และมีชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข
๖.๓ นโยบายด้านการสาธารณสุข
๖.๓.๑ เร่งรัดการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีมาตรฐานและคุณภาพทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน
๖.๓.๒ สนับสนุนการสร้างระบบประกันสุขภาพ
๖.๓.๓ ส่งเสริมการผลิตและพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขให้มีคุณภาพและเพียงพอ และให้มีการกระจายบุคลากรอย่างเหมาะสม ตลอดจนส่งเสริมการนำเทคโนโลยีทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ทันสมัยและคุ้มค่ามาใช้ในการให้บริการ
๖.๓.๔ เร่งรัดการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ในกลุ่มเสี่ยง ทุกกลุ่ม และดูแลรักษาและพัฒนาศักยภาพของผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วย ครอบครัว และชุมชนให้รู้จักป้องกันและแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง
๖.๓.๕ เร่งรัดขยายงานสาธารณสุขมูลฐานในชนบท โดยสนับสนุนองค์กรประชาชน
สถาบันครอบครัว อาสาสมัครสาธารณสุข ให้เข้ามามีบทบาทอย่างเข้มแข็งในการดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชน
๖.๓.๖ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง การดูแลสุขภาพ และการป้องกันโรค
๖.๓.๗ กวดขันมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยจากการบริโภคอาหารยา สินค้าและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
๖.๓.๘ ให้มีการศึกษาวิจัยอย่างจริงจัง ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อพัฒนาระบบ รูปแบบและเทคโนโลยีการให้บริการสาธารณสุข
๖.๓.๙ ให้มีมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อร้ายแรงในภูมิภาคที่เข้ามากับกลุ่มแรงงานต่างชาติและประชาชาติอื่น ๆ
๖.๓.๑๐ เฝ้าระวังและตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่อาจเป็นอันตรายต่อ สุขอนามัยของประชาชนให้อยู่ในระดับมาตรฐานความปลอดภัย สร้างหลักประกันสุขภาพและคุ้มครองความปลอดภัยจากการประกอบอาชีพ รวมทั้งกำหนดมาตรการเร่งรัดให้มีการกำจัดขยะติดเชื้อและบำบัดน้ำเสียจากสถานบริการสาธารณสุขอย่างจริงจัง ตลอดจนจัดหาน้ำสะอาดสำหรับอุปโภคบริโภคให้แก่ประชาชนในชนบทอย่างทั่วถึง
๖.๔ นโยบายด้านแรงงานและสวัสดิการสังคม
รัฐบาลจะส่งเสริมให้ประชาชนมีงานทำด้วยการพัฒนาฝีมือ มีระบบสวัสดิการและระบบความปลอดภัย สร้างหลักประกันสุขภาพและคุ้มครองความปลอดภัยจากการประกอบอาชีพ รวมทั้งกำหนดมาตรการเร่งรัดให้มีการกำจัดขยะติดเชื้อและบำบัดน้ำเสียจากสถานบริการสาธารณสุขอย่างจริงจัง ตลอดจนจัดหาน้ำสะอาดสำหรับอุปโภคบริโภคให้แก่ประชาชนในชนบทอย่างทั่วถึง
๖.๔.๑ พัฒนาฝีมือแรงงานให้ได้มาตรฐาน มีวินัยและมีขีดความสามารถ สอดคล้องกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศ
๖.๔.๒ จูงใจให้คนไทยระดับนักวิชาชีพ ผู้ชำนาญการและผู้ใช้แรงงานที่อยู่ในต่างประเทศกลับมาทำงานในประเทศ
๖.๔.๓ ปรับปรุงระบบการจัดส่งแรงงานไปต่างประเทศที่ดำเนินการอยู่ให้มีความเป็นธรรมไม่เอารัดเอาเปรียบผู้ใช้แรงงาน
๖.๔.๔ ควบคุมการทำงานของแรงงานต่างชาติอย่างเข้มงวดและเป็นระบบ
๖.๔.๕ ส่งเสริมให้มีระบบแรงงานสัมพันธ์ การคุ้มครองแรงงาน และความปลอดภัยในการทำงานทั้งระบบทวิภาคีและไตรภาคี
๖.๔.๖ ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับแรงงานและพนักงานรัฐวิสาหกิจให้เหมาะสมกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
๖.๔.๗ เร่งดำเนินการทั้งมาตรการป้องกันและปราบปรามเพื่อแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานเด็กและโสเภณีเด็ก
๖.๔.๘ กระจายบริการสวัสดิการสังคมไปยังชนบท โดยสนับสนุนทุนดำเนินการของศูนย์สงเคราะห์ราษฎรประจำหมู่บ้าน
๖.๔.๙ เร่งจัดตั้งศูนย์สารสนเทศแรงงานและสวัสดิการสังคม
๖.๕ นโยบายด้านกีฬา
รัฐบาลจะดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาการกีฬาเพื่อสุขภาพอนามัยของคนในชาติ รวมทั้งพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ มีศักยภาพทัดเทียมกับอายรประเทศ โดยจะดำเนินการ
๖.๕.๑ จัดเตรียมการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ให้มีความพร้อมในทุกด้าน รวมทั้งพัฒนาสมรรถภาพของนักกีฬาให้มีความพร้อมในการเข้าแข่งขัน
๖.๕.๒ ส่งเสริมให้มีกีฬาขั้นพื้นฐานเพื่อการแข่งขัน การอาชีพ และเพื่อสุขภาพ โดยกระจายโอกาสด้านกีฬาไปให้ทั่วทุกภูมิภาคและทุกชุมชน รวมทั้งสนับสนุนการผลิตอุปกรณ์กีฬาในประเทศให้มีมาตรฐานและมีราคาถูก
๖.๕.๓ ให้มีการเล่นกีฬาตั้งแต่เยาว์วัย และสนับสนุนบริการพื้นฐานด้านกีฬาให้ผู้ด้อยโอกาสและผู้พิการ
๖.๕.๔ จัดตั้งศูนย์กีฬาระดับนานาชาติเพื่อเป็นที่ฝึกซ้อมและเก็บตัวนักกีฬา เสริมสร้างขวัญและกำลังใจนักกีฬาที่นำชื่อเสียงและเกียรติภูมิมาสู่ประเทศให้มีมาตรฐาานการครองชีพที่ดี รวมทั้งจัดสวัสดิกาช่วยเหลือนักกีฬาที่ประสบอุบัติเหตุ
๗. นโยบายด้านการพัฒนาชนบทและกระจายรายได้และความเจริญไปสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น
รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะพัฒนาชนบทและกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น โดยขยายบริการขั้นพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคมให้ทั่วถึงในทุกภูมิภาคเพื่อให้การพัฒนาชนบทเป็นการพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน โดยจะดำเนินการ
๗.๑ เร่งรัดการกระจายรายได้และกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคต่าง ๆ ด้วยการ ส่งเสริมการดำเนินโครงการพัฒนาในพื้นที่อนุภาค พื้นที่ชายแดน พื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกและพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ ตลอดจนกระจายอุตสาหกรรมและการลงทุนไปสู่ภูมิภาคและชนบท
๗.๒ เร่งรัดจัดทำผังโครงการพัฒนาทั่วประเทศเพื่อสร้างสมดุลการพัฒนาไม่ให้กระจุกตัวเฉพาะในภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่ง
๘. นโยบายด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟู อนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นโดยจะดำเนินการ
๘.๑ ปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้ทั้งหมดให้สอดคล้องกันและเร่งรัดการออกกฎหมายว่าด้วยป่าชุมชนเพื่อให้คนและป่าสามารถอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูลกัน
๘.๒ ป้องกันและปราบปรามการบุกรุกและการตัดไม้ทำลายป่า อนุรักษ์ป่าต้นน้ำลำธารป่าชายเลน และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติที่เสื่อมโทรม
๘.๓ ปรับปรุงหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลรักษา และจัดการทรัพยากรธรรมชาติให้สามารถทำหน้าที่ได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ
๘.๔ ใหมีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพตามหลักอนุรักษ์และความสมดุลทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
๘.๕ จัดทำแผนแม่บทการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้ครบทุกจังหวัด
๘.๖ ลดปริมาณมลพิษและการแพร่กระจายในสภาพแวดล้อมให้อยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัย โดยเสริมสร้างกลไกทางกฎหมายและสมรรถนะขององค์กร รวมทั้งยึดหลักผู้ก่อให้เกิดมลพิษเป็นผู้จ่าย
๘.๗ ร่วมมือกับต่างประเทศในการดูแลและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมของโลกภูมิภาคและของประเทศ
๘.๘ ส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชน องค์กรเอกชนและองค์กรปกครองท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม
๙. นโยบายด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะเร่งรัดพัฒนาขีดความสามารถทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อเป็นเครื่องมือของการพัฒนาเศรษฐกิจให้เจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตสินค้าให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก รวมทั้งเสริมสร้างสมรรถนะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในระยะยาว โดยจะดำเนินการ
๙.๑ ผลิตและพัฒนากำลังคนทางด้านวิทยาศาสตร์แลเทคโนโลยีให้มีปริมาณและคุณภาพเพียงพอกับความต้องการ
๙.๒ ร่วมมือทางเทคโนโลยีกับต่างประเทศ ส่งเสริมให้บริษัทต่างชาติลงทุนด้านการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง การวิจัยและพัฒนา และการจัดตั้งสถาบันฝึกอบรมเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่คนไทย
๙.๓ พัฒนาเทคโนโลยีที่มีความสำคัญต่อการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางเศรษฐกิจในทุกภาคการผลิต
๙.๔ สนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมายจาก ต่างประเทศและอุตสาหกรรมการเกษตร รวมทั้งส่งเสริมให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีไปสู่ภูมิภาคอย่างทั่วถึง
๙.๕ ส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนร่วมมือกันวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เหมาะสม รวมทั้งเชื่อมโยงเครือข่ายการวิจัยทั้งในและต่างประเทศ
๙.๖ สร้างจิตสำนึกและความสนใจด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งปลูกฝังให้เยาวชนไทยมีความคิดสร้างสรรค์เชิงวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้น
๙.๗ ให้มีการพัฒนาและใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาคนและการใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
๑๐. นโยบายด้านความมั่นคง การรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและเสริมสร้างกำลังทหารให้มีประสิทธิภาพ ทันสมัย และสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ จะรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยจะดำเนินการ
๑๐.๑ นโยบายด้านการรักษาความมั่นคงของรัฐ
๑๐.๑.๑ พัฒนาและเสริมสร้างให้กำลังทหารมีขีดความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
๑๐.๑.๒ สนับสนุนให้กำลังทหารมีโครงสร้าง กำลังพลหลักนิยม เทคโนโลยีและยุทโธปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับสงครามสมัยใหม่ และส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาทางการทหารรวมทั้งพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศให้สามารถพึ่งตนเองได้ในอนาคต
๑๐.๑.๓ ส่งเสริมให้กองทัพมีส่วนร่วมกับหน่วยงานอื่นของรัฐและภาคเอกชน ในการพัฒนาประเทศ ตลอดจนสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมและรับรู้ในกิจการของทหารมากขึ้น
๑๐.๑.๔ ปรับปรุงระบบการคัดเลือกทหารให้เป็นไปด้วยความสมัครใจ
๑๐.๑.๕ ส่งเสริมและสนับสนุนให้กองทัพมีส่วนร่วมในการช่วยผลิตกำลังคนเพื่อการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการฝึกอาชีพให้แก่ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกทหาร
๑๐.๑.๖ เสริมสร้างระบบสวัสดิการ บำรุงขวัญกำลังพลและครอบครัว รวมทั้งส่งเสริมกีฬาทหารเพื่อช่วยพัฒนากีฬาของชาติให้เป็นเลิศ
๑๐.๑.๗ ส่งเสริมและสนับสนุนการสงเคราะห์ทหารผ่านศึกและครอบครัวให้มีรายได้และอยู่ในสังคมได้อย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี
๑๐.๒ นโยบายด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
๑๐.๒.๑ ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทุกประเภทอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตและการค้ายาเสพติด ยาบ้า และสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทอื่น รวมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงมหันตภัยและโทษของสิ่งดังกล่าว
๑๐.๒.๒ เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการด้านอุบัติภัยและสาธารณภัย รณรงค์ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้และสร้างจิตสำนึกในการป้องกันและระงับอุบัติภัยและสาธารณภัย
๑๐.๒.๓ ป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากภัยธรรมชาติ เช่น อุทกภัย และ ภัยแล้งรวมทั้งให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนภายหลังประสบภัย ดังกล่าวโดยเร่งด่วน
๑๑. นโยบายด้านการพัฒนามหานคร
รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลตลอดจนเมืองหลักในภูมิภาคให้ดีขึ้น โดยจะดำเนินการ
๑๑.๑ นโยบายด้านการพัฒนากรุงเทพมหานครและปริมณฑล
รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมและพัฒนากรุงเทพมหานครให้เป็นมหานครที่มีระบบการจราจรและสภาพแวดล้อมโดยรวมที่ดีขึ้น ให้การเดินทางของคนกรุงเทพมหานครจากบ้านไปที่ทำงานและจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งใช้เวลาสั้นลง รวมทั้งวางแผนและกำหนดทิศทางการเจริญเติบโตของกรุงเทพมหานครอย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น โดยจะดำเนินการ
๑๑.๑.๑ กำหนดให้มีการใช้ที่ดินในเขตกรุงเทพมหานครอย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ และเหมาะสม โดยใช้มาตรการทางด้านผังเมือง
๑๑.๑.๒ เร่งรัดดำเนินการตามแผนการแก้ปัญหาชุมชนแออัดในเขตใจกลางเมืองและเชื่อมโยงกรุงเทพมหานครเข้ากับพื้นที่เขตเศรษฐกิจใหม่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก พื้นที่ด้านตะวันตก และภาคกลางตอนบน
๑๑.๑.๓ เร่งรัดแก้ไขปัญหาการจราจรตามแผนแม่บท
๑๑.๑.๔ เร่งรัดการวางแผนและการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมแบบถาวร
๑๑.๑.๕ สนับสนุนการสร้างสวนสาธารณะ และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสาธารณะ โดยใช้ที่ดินของรัฐ
๑๑.๑.๖ ส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนของตนให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น
๑๑.๒ นโยบายด้านการพัฒนามหานครในภูมิภาค
รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะวางระบบแก้ไขปัญหาและพัฒนาเมืองที่กำลังขยายเป็นมหานครในภูมิภาคให้ไปสู่ทิศทางการพัฒนาที่เหมาะสมและยั่งยืน โดยจะดำเนินการ
๑๑.๒.๑ เร่งรัดการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนามหานครในภูมิภาค
๑๑.๒.๒ ให้รัฐเป็นแกนนำในการปรับปรุงฟื้นฟูเมือง โดยนำที่ดินของรัฐที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์มาพัฒนาเป็นสวนสาธารณะและถนน
๑๑.๒.๓ จัดการด้านผังเมืองอย่างเป็นระบบเพื่อจัดระเบียบการขยายตัวของชุมชนและป้องกันการเกิดชุมชนแออัด รวมทั้งให้มีการใช้ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ
๑๑.๒.๔ ปรับสภาพแวดล้อมในชุมชนแออัดให้เหมาะสม ขยายบริการสังคมให้เข้าถึงชุมชนอย่างทั่วถึง รวมทั้งเร่งยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อยในเขตเมือให้สามารถช่วยเหลือตนเองได้
๑๑.๒.๕ เร่งรัดการจัดระบบการจราจรและการขนส่ง โดยจัดทำแผนนแม่บทเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาในระยะยาว
ท่านประธานรัฐสภาที่เคารพและท่านสมาชิกผู้มีเกียรติทุกท่าน
นโยบายทั้งหมดที่ได้แถลงมานั้น เป็นกรอบและแนวทางหลักในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ซึ่งผู้ที่รับผิดชอบจะต้องจัดทำแผนแม่บทและแผนปฏิบัติการกำหนดรายละเอียดวิธีการและระยะเวลาในการดำเนินการ และนำไปปฏิบัติให้บรรลุตามนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงไว้นี้โดยเร็วและแม้ว่าสิ่งใดที่มิได้แถลงไว้ แต่หากดำเนินการแล้วจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน รัฐบาลก็จะเร่งดำเนินการในทันที
กระผมขอยืนยันกับท่านทั้งหลายว่ารัฐบาลนี้จะมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาแห่งนี้ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน เป็นเป้าหมายสูงสุดเพือนำพาประเทศไปสู่สังคมโลกยุคใหม่ได้อย่างวัฒนาถาวร
กระผมเชื่อมั่นว่าด้วยความร่วมมือและสนับสนุนจากท่านสมาชิกผู้มีเกียรติรัฐบาลจะสามารถบริหารประเทศตามนโยบายที่ได้กล่าวมาให้สัมฤทธิผลสมตามเจตนารมณ์ทุกประการ
*รายงานการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ ๑/๒๕๓๙ (สมัยสามัญ ครั้งที่หนึ่ง) วันพุธที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๓๙ หน้า ๒ -๒๖