คณะรัฐมนตรี คณะที่ ๔๙
คณะรัฐมนตรี คณะที่ ๔๙
นายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรี
ตั้งแต่วันที ๑๐ มิถุนายน ๒๕๓๕ – ๒๓ กันยายน ๒๕๓๕
แถลงนโยบาย เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๓๕
คำแถลงนโยบายของรัฐบาล*
ท่านประธานรัฐสภาและท่านสมาชิกผู้มีเกียรติ
ตามที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้กระผมเป็นนายกรัฐมนตรีตามประกาศพระบรมราชโอการ ลงวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๓๕ และแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีตามประกาศพระบรมราชโองการ ลงวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๓๕ นั้นก่อนที่จะได้นำเรียนให้ทราบถึงนโยบายการบริหารราชการแผ่นดิน กระผมใคร่ขอเรียนข้อความบางประการให้ทราบเป็นเบื้องต้น ดังนี้
คณะรัฐมนตรีนี้ได้จัดตั้งขึ้นเป็นการเฉพาะกิจในขณะที่ประเทศอยู่ในภาวะวิกฤตและบอบช้ำอย่างหนัก อันเนื่องมาจากการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มต่าง ๆ ยังผลให้เกิดความสับสนทางการเมือง ความชะงักงันของเศรษฐกิจบางภาคความหวาดระแวงและความวิตกกังวลในหมู่ประชาชนทั่วไป ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้จะเกิดผลกระทบต่อเสถียรภาพของประเทศอย่างรุนแรงประกอบกับเป็นที่ประจักษ์ชัดตามคำกราบบังคมทูลพระกรุณาของท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรในการนำชื่อกระผมขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ว่าการแต่งตั้งครั้งนี้ เพื่อจะได้ใช้กระบวนการทางรัฐสภาและรัฐธรรมนูญคืออำนาจอธิปไตยกลับไปให้ประชาชนเพื่อให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยได้พัฒนาไปอย่างต่อเนื่องและมีความสมบูรณ์ และให้รัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นใหม่มีโอกาสใช้ความสามารถในระยะเวลาอันสั้นฟื้นฟูประเทศชาติให้เกิดเสถียรภาพในแนวทางสันติ เพื่อจะได้เป็นที่เชื่อถือแก่นานาประเทศต่อไป
เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์บ้านเมืองความมุ่งหมายในการตั้งคณะรัฐมนตรีในลักษณะเฉพาะกิจและระยะเวลาอันมีจำกัดในการบริหารราชการแผ่นดินแล้ว คณะรัฐมนตรีขอนำนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินเรียนให้ท่านประธานรัฐสภาและท่านสมาชิกรัฐสภาผู้มีเกียรติได้ทราบว่ารัฐบาลจะดำเนินการดังต่อไปนี้
๑. ดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงภายในประเทศโดยยึดหลักสันติธรรม เพื่อสร้างความเข้าใจ และความรู้รักสามัคคีของคนในชาติ
๒. เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าของประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ ราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ และปัญหาอื่น ๆ
๓. ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนและนานาประเทศโดยจะสานต่อนโยบายเศรษฐกิจแบบเสรี และยึดถือหลักความโปร่งใสและชัดเจน
๔. สานต่อนโยบายด้านการกระจายรายได้และการพัฒนาเกษตรกรรมและชนบทโดยเร่งรัดโครงการพื้นฐานต่อเนื่องจากที่ได้ริเริ่มไว้แล้ว อาทิ โครงการพัฒนาจังหวัดโครงการจัดหาน้ำสะอาดให้ทั่วถึงทุกหมู่บ้านและการกระจายอุตสาหกรรมสู่ภูมิภาค
๕. เร่งดำเนินการโครงการสาธารณูปโภค สาธารณูปการต่าง ๆ ที่ริเริ่มไว้แล้วให้รุดหน้าต่อไป
๖. เร่งดำเนินการโครงการต่าง ๆ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ของสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถเพื่ออำนวยประโยชน์แก่ประชาชนตลอดจนกำกับดูแลพิธีการในวโรกาสมหามงคลดังกล่าวให้เป็นไปตามกำหนดการโดยเรียบร้อยและสมพระเกียรติ
๗. ส่งเสริมและคุมครองป้องกันสิทธิเสรีภาพของประชาชนให้ตระหนักในความสำคัญและบทบาทของตนในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและจะกำกับดูแลการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ให้เป็นไปโดยเรียบร้อยบริสุทธิ์และยุติธรรมสำหรับด้านอื่น ๆ
นอกจากนี้ รัฐบาลจะปฏิบัติตามและเร่งรัดดำเนินการให้เป็นไปตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไป
ในการดำเนินการตามนโยบายข้างต้นนี้รัฐบาลขอยืนยันต่อท่านประธานรัฐสภาและท่านสมาชิกรัฐสภาผู้มีเกียรติว่า จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและทุ่มเทสติปัญญาอย่างเต็มกำลังความสามารถ ตลอดจนรักษาความเป็นกลางในทางการเมืองอย่างเคร่งครัดโดยไม่ฝักใฝ่หรือให้คุณให้โทษเพื่อประโยชน์ทางการเมืองแก่บุคคลหรือคณะบุคคลใดและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าด้วยความร่วมมือและการสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาผู้มีเกียรติทุกท่านนโยบายของคณะรัฐมนตรีในการบริหารราชการแผ่นดิน จะสัมฤทธิผลนำไปสู่ความสงบสุขของบ้านเมืองและการฟื้นฟูประเทศชาติให้เกิดเสถีรภาพ เป็นที่วางใจและเชื่อถือในหมู่ประชาชนและนานาประเทศและคณะรัฐมนตรีนี้จะส่งมอบการบริหารราชการแผ่นดินให้คณะรัฐมนตรีที่จะเข้ามาใหม่ตามกระบวนการทางรัฐสภาและบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญด้วยดีต่อไป
สุดท้ายนี้ กระผมขอเรียนว่า คณะรัฐมนตรีจะบริหารราชการแผ่นดินโดยยึดมั่นและรักษาคำสัตย์ปฏิญาณที่ได้ถวายต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสที่เข้ารับหน้าที่ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและด้วยความตั้งใจอย่างแน่วแน่แท้จริง
*รายงานการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ ๕/๒๕๓๕ วันจันทร์ที่ ๒๒ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๓๕ หน้า ๒๕๙ – ๒๖๑