คณะรัฐมนตรี คณะที่ ๔๖
คณะรัฐมนตรี คณะที่ ๔๖
พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ
เป็นนายกรัฐมนตรี
ตั้งแต่วันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๓๓
แถลงนโยบาย เมื่อวันพธที่ ๙ มกราคม ๒๕๓๔
คำแถลงนโยบายของรัฐบาล*
ท่านประธานรัฐสภาและท่านสมาชิกผู้มีเกียรติ
ตามที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งให้กระผมเป็นนายกรัฐมนตรีตามประกาศพระบรมราชโองการ ลงวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๓๓ และแต่งตั้งให้กระผมเป็นนายกรัฐมนตรีตามประกาศพระบรมราชโองการ ลงวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๓๓ นั้น ณ บัดนี้คณะรัฐมนตรีได้กำหนดนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินและขอนำเรียนให้ท่านสมาชิกรัฐสภาผู้ทรงเกียรติได้ทราบถึงเจตนารมณ์ในแนวนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลซึ่งมีเวลาเหลือเพียง ๑ ปีกับ ๗ เดือน เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองให้แก่ประเทศชาติและความผาสุกให้แก่พี่น้องประชาชนของเราสืบต่อไป
กระผมมีสิ่งหนึ่งที่จะยึดถือเป็นหัวใจอันสำคัญสูงสุดในการควบคุมกำกับบริหารของรัฐบาลชุดนี้ ให้บรรลุแนวนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาอันทรงเกียรติในวันนี้ คือ จะยึดถือความซื่อสัตย์สุจริตต่อประชาชนและผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้งโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของกลุ่มใดหรือพรรคใดมาเป็นฐานและดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อกำจัดและป้องกันมิให้ฉ้อราษฎร์บังหลวงเกิดขึ้น ทั้งนี้ ด้วยความสำนึกในความรับผิดชอบต่อประเทศชาติและประชาชนอันเป็นที่รักของเราด้วยใจอันบริสุทธิ์และกระผมขอให้คำมั่นว่าจะปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบอย่างสุดกำลังความสามารถโดยขอแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีให้รัฐสภาทราบ ดังนี้
๑. นโยบายการเมือง
รัฐบาลมุ่งเทอดทูนและรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขและจะดำเนินการทุกวิถีทางที่จะให้บังเกิดความสุขความเจริญแก่ประชาชนทุกหมู่เหล่า ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองในการนี้รัฐบาลจะส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาบทบาทพรรคการเมือง และสถาบันรัฐสภาให้สอดคล้องกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขและกระตุ้นให้ประชาชนมีความเข้าใจและศรัทธายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอย่างจริงจังโดยการคุ้มครองและขยายสิทธิเสรีภาพตามกฎหมายให้กว้างขวางขึ้นตลอดจนสร้างความสำนึกในหน้าที่และความรับผิดชอบของตนในฐานะประชาชนและให้มีส่วนร่วมทางการเมืองทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น
นอกจากนั้นรัฐบาลจะดำเนินการแก้ไขให้การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการเลือกตั้งใด ๆ ที่ราษฎรใช้สิทธิเป็นไปโดยบริสุทธิ์ ยุติธรรม เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้นขณะเดียวกันรัฐบาลจะส่งเสริมและปรับปรุงการกระจายอำนายการปกครองสู่ท้องถิ่นโดยเฉพาะสภาตำบลให้มากขึ้นโดยการเพิ่มอิสระทางการเงินการคลัง การจัดซื้อ จัดจ้าง และการกำหนดนโยบายของตนเอง ทั้งนี้จะได้ดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอนให้เหมาะสมกลับสภาพการพัฒนาท้องถิ่นทั้งที่พัฒนาไปมากแล้วและท้องถิ่นที่ยังต้องการความสนับสนุนจากส่วนกลางโดยคำนึงถึงความเป็นเอกภาพของการปกครองราชอาณาจักรซึ่งเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและจะแย่งแยกมิได้รัฐบาลจะดำเนินการเพื่อให้มีการปฏิรูปกฎหมายที่ล้าสมัยและเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และเร่งรัดปรับปรุงประกาศของคณะปฏิวัติตลอดจนคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ให้เป็นระบบกฎหมายในระบอบประชาธิปไตย
๒. นโยบายการบริหารระบบราชการ
รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนบทบาทของราชการจากผู้ปฏิบัติมาเป็นผู้กำกับดูแลให้การสนับสนุนการดำเนินงานของภาคเอกชนยิ่งขึ้นโดยปรับปรุงระบบราชการให้เปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อเปลี่ยนแนวความคิดจากการบริหารราชการในลักษณะของการปกครองมาเป็นการบริหารราชการในเชิงการพัฒนารัฐบาลมุ่งเน้นปรับการบริหารราชการและวิธีการปฏิบัติงานให้รวดเร็ว โดยลดขั้นตอนการทำงาน และกระจายอำนาจการบริหารงานบุคคลงานงบประมาณจากส่วนกลางไปสู่หน่วยปฏิบัติและสู่ส่วนภูมิภาคโดยจัดสรรเงินงบประมาณเป็นก้อนให้แก่จังหวัดเพื่อนำไปใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาของประชาชนควบคู่ไปกับการปรับปรุงมาตรฐานการครองชีพและสภาพแวดล้อมในการทำงานของข้าราชการเพื่อเป็นสิ่งจูงใจที่จะรักษาคนดีมีความสามารถไว้ในราชการขณะเดียวกันรัฐบาลมีนโยบายที่จะยึดหลักระบบคุณธรรมในการพิจารณาให้บำเหน็จความชอบ การเลื่อนตำแหน่งในระบบราชการเพื่อให้สามารถธำรงและสรรหาข้าราชการที่มีคุณภาพมีขวัญและกำลังใจในการทำงานตามนโยบายของรัฐบาลต่อได้ต่อไป
รัฐบาลมุ่งเน้นที่จะปรับปรุงโครงสร้างกระทรวง ทบวงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันและสนองตอบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เช่น แบ่งแยกงานจากกระทรวงเดิม จัดตั้งเป็นกระทรวง ทบวงขึ้นใหม่ อาทิ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงการค้าต่างประเทศ กระทรวงพลังงาน กระทรวงโยธาธิการกระทรวงแรงงาน กระทรวงสื่อสารและคมนาคมและทบวงตำรวจ เป็นต้น
๓. นโยบายเศรษฐกิจ
รัฐบาลนี้กำหนดเป้าหมายการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจที่จะให้เศรษฐกิจของไทยขยายตัวต่อเนื่อง โดยมุ่งขยายฐานการผลิตและการค้าให้เปิดกว้างสู่นานาชาติและให้ประเทศไทยสามารถเป็นฐานเศรษฐกิจ “ด่านหน้า” ของภูมิภาคนี้ให้ได้ทั้งเป็นศูนย์กลางการผลิต การแปรรูปสินค้า การส่งออกและเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจเงินและคมนาคมขนส่งในภูมิภาคนี้ด้วยในการนี้รัฐบาลมีความจำเป็นต้องปรับนโยบายเศรษฐกิจของไทยให้มีลักษณะเชิงผ่อนคลายและมีความยืดหยุ่นคล่องตัวสูงขึ้น ทั้งทางด้านการค้ากับต่างประเทศการบริหารการเงินการคลังและการจัดหาบริการพื้นฐานที่สำคัญ ๆ ซึ่งจำเป็นต้องลดการผูกขาดลงและเพิ่มบทบาทภาคเอกชนให้มีส่วนร่วมลงทุนขยายบริการพื้นฐานด้านบริการโทรคมนาคม ขนส่งกิจการพลังงาน การพัฒนากำลัง และให้เพิ่มการใช้เทคโนโลยีเพื่อการผลิตให้มากขึ้นด้วยขณะเดียวกันรัฐบาลจะดำเนินนโยบายที่ระมัดระวังรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงินของประเทศต่อไป เพื่อมุ่งลดภาวะเงินเฟ้อและการขาดดุลการค้าของประเทศมิให้อยู่ในระดับที่จะส่งผลกระทบกระเทือนต่อภาวะความเป็นอยู่การครองชีพของประชาชนและความมั่นใจของนักลงทุนในประเทศไทยนอกจากนั้น รัฐบาลมุ่งเน้นให้ความสำคัญสูงต่อนโยบายกระจายรายได้และเร่งกระจายการขยายตัวทางเศรษฐกิจไปสู่ส่วนภูมิภาคโดยเฉพาะการส่งเสริมภาคเอกชนให้มีบทบาทในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจท้องถิ่นมากยิ่งขึ้นเพื่อยกระดับรายได้ให้แก่เกษตรกรรายย่อยที่ยากจนและลูกจ้างแรงงานการเกษตรในชนบทกลุ่มผู้ประกอบอาชีพส่วนตัวขนาดเล็กในเมือง และกลุ่มผู้ใช้แรงงานและลูกจ้างที่มีรายได้ต่ำซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญของนโยบายการกระจายรายได้ของรัฐบาล โดยจะดำเนินนโยบายเศรษฐกิจเฉพาะด้าน ดังนี้
๓.๑ การเงินการคลัง รักษาและเสริมสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและฐานะการเงินการคลังของประเทศให้มั่นคงและดำเนินนโยบายการเงินการคลังของประเทศในกรอบวินัยที่เคร่งครัดควบคู่กับการเอื้ออำนวยต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรมและปรับปรุงโครงสร้างระบบการจัดเก็บภาษีอากรเพื่อลดความซ้ำซ้อนตลอดทั้งสร้างความเป็นกลางของระบบภาษีให้เอื้ออำนวยต่อการลงทุนและการพัฒนาธุรกิจของประเทศขณะเดียวกันจะใช้มาตรการทางการคลังให้สามารถช่วยเหลือต่อภาคเศรษฐกิจที่อ่อนแอโดยเฉพาะในด้านการเกษตร ส่วนการดำเนินการของรัฐวิสาหกิจนั้นจะให้ลดการพึ่งพาการสนับสนุนจากรัฐลงโดยให้เร่งการระดมทุนและร่วมทุนกับภาคเอกชนในการขยายบริการสาธารณูปโภคและสาธารณูปการให้กว้างขวางและมีคุณภาพที่สามารถสนองต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศได้ทางด้านนโยบายการเงิน รัฐบาลจะพัฒนาเสริมสร้างระบบการเงินสถาบันการเงินและตลาดทุนให้มั่นคงแข็งแรงและมีประสิทธิภาพในการระดมเงินออมระยะสั้นและระยะยาวให้สูงขึ้นและให้มีการผ่อนคลายการควบคุมสถาบันการเงินเพื่อสนองความต้องการด้านลงทุนในประเทศตลอดทั้งสามารถให้ประเทศไทยมีโอกาสพัฒนาเป็นศูนย์การเงินในภูมิภาคได้ต่อไปนอกจากนั้นรัฐบาลจะดำเนินนโยบายและมาตรการทางการเงินการคลัง เพื่อจูงใจให้พัฒนาแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมการประหยัดพลังงานการขจัดมลพิษและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
๓.๒ การเกษตร รัฐบาลยึดมั่นว่าการช่วยเหลือเกษตรกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรรายย่อยที่ยากจนเป็นนโยบายที่มีความสำคัญสูงสุดเพื่อเร่งการเพิ่มผลผลิตและสร้างเสถียรภาพของรายได้ให้แก่เกษตรกรรายย่อยในการนี้รัฐบาลจะเร่งดำเนินการปฏิรูปที่ดินและปรับปรุงระบบการให้สิทธิทำกินแก่เกษตรกรในเขตป่าไม้ที่หมดสภาพและที่เกษตรกรได้ครอบครองใช้ประโยชน์ในที่ดินนั้นโดยจะเร่งออกเอกสารสิทธิ์ หรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องให้แก่เกษตรกรนอกจากนั้นจะดำเนินการพัฒนาพื้นที่ดินที่มีปัญหาในบริเวณแห้งแล้ง ดินเค็ม ดินพรุตลอดทั้งดำเนินการป้องกันดินถูกชะล้างพังทลายในเขตต้นน้ำลำธาร และอนุรักษ์ฟื้นฟูที่ดินชายฝั่งทะเลควบคู่ไปด้วย
รัฐบาลจะขยายวงเงินสินเชื่อทั้งระยะสั้นและระยะยาวให้แก่เกษตรกรที่ยากจนโดยปรับเงื่อนไขให้ผ่อนปรนยิ่งขึ้นเพื่อให้เกษตรกรสามารถเปลี่ยนระบบการผลิตเกษตรดั้งเดิมไปสู่พืชเศรษฐกิจใหม่ ๆ และการเลี้ยงสัตว์ที่มีความต้องการของตลาดมากขึ้น ส่วนด้านปัจจัยการผลิตอื่น ๆ รัฐบาลมีนโยบายให้มีการค้าปุ๋ยเคมีอย่างเสรีมากขึ้นเพื่อลดการผูกขาดการผลิตและการค้าปุ๋ยเคมีลงและเร่งรัดให้มีการผลิตปุ๋ยเคมีในประเทศ เพื่อทดแทนการนำเข้าโดยถือว่าเป็นปัจจัยพื้นฐานทางการเกษตรที่รัฐบาลจะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของเกษตรกรเป็นหลัก
รัฐบาลจะจัดให้มีการส่งเสริมการผลิตเกษตรแผนใหม่โดยอาศัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากขึ้น เช่น การใช้ปุ๋ยชีวภาพ การควบคุมศัตรูพืชด้วยมาตรการชีวินทรีย์การผสมเทียมปศุสัตว์และสัตว์น้ำการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เป็นต้นเพื่อเป็นฐานในการปฏิรูปโครงสร้างการผลิตด้านการเกษตรของประเทศต่อไป นอกจากนี้จะเสริมสร้างกำลังต่อรองให้แก่เกษตรกรโดยสนับสนุนสถาบันการเกษตรและส่งเสริมภาคเอกชนให้มีส่วนร่วมในการผลิตการตลาดและอุตสาหกรรมการเกษตรรวมทั้งการแปรรูปทางด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติรัฐบาลจะดำเนินงานพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร โดยเน้นการขุดลอกคู คลอง หนองและบึงธรรมชาติเพื่อให้สามารถปลูกพืชในฤดูแล้งได้และมีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ป่าอนุรักษ์ให้สูงขึ้น จากร้อยละ ๒๐ เป็นร้อยละ ๒๕ ของพื้นที่ป่าทั้งหมดและจะสนับสนุนภาคเอกชนและสถาบันเกษตรกรให้ปลูกสวนป่าเศรษฐกิจและสวนป่าชุมชนต่อไป นอกจากนี้รัฐบาลจะอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลและในน่านน้ำไทยให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำถาวร
๓.๓ อุตสาหกรรม รัฐบาลจะส่งเสริมอุตสาหกรรมไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดต่างประเทศทั้งคุณภาพและต้นทุนการผลิต โดยการลดอัตราภาษีนำเข้าเครื่องจักร ชิ้นส่วนและวัตถุดิบรวมทั้งส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีบทบาทในการให้บริการทดสอบและรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของไทยได้ด้วยขณะเดียวกันจะเร่งกระจายอุตสาหกรรมไปสู่ส่วนภูมิภาคและพื้นที่ “เขตเศรษฐกิจใหม่” เช่น บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออกและเร่งพัฒนาบริเวณชายฝั่งทะเลภาคใต้ตลอดทั้งการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม เขตอุตสาหกรรมส่งออกอาคารชุดสำหรับอุตสาหกรรมเพื่อกระจายอุตสาหกรรมไปสู่ส่วนพื้นที่ที่ควรพัฒนา ซึ่งจะช่วยให้การควบคุมปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพรัฐบาลจะให้ความสำคัญสูงสุดต่อการป้องกันควบคุมและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากโรงงานอุตสาหกรรมทั้งทางด้านมลพิษทางอากาศ ทางน้ำ เสีย กากของเสียและสารเป็นพิษรวมทั้งขยะมูลฝอย โดยเฉพาะบริเวณที่มีโรงงานตั้งอยู่หนาแน่นในเขตกรุงเทพมหานคร เมืองหลักและบริเวณฝั่งแม่น้ำสายหลัก ในการนี้จะสนับสนุนให้ภาคเอกชนร่วมลงทุนหรือรับสัมปทานในการลงทุนสร้างระบบบำบัดน้ำเสียรวมและจัดการกากของเสียอย่างเป็นระบบด้วย
๓.๔ การพาณิชย์และบริการ รัฐบาลจะมุ่งดำเนินนโยบายการพาณิชย์ให้มีการค้าทั้งภายในและกับต่างประเทศให้ “เสรี” มากยิ่งขึ้นเพื่อเป็นแนวทางการเจรจาการค้ากับต่างประเทศหลายฝ่ายรอบอุรุกวัยและเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันทางการค้าที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าในภูมิภาคนี้ โดยจะเน้นหนักขยายตลาดในอินโดจีนและเอเชีย – แปซิฟิก และปรับปรุงระบบการอนุญาตนำเข้าวัตถุดิบ กำหนดมาตรการปกป้องไม่ให้มีการทุ่มตลาดเข้ามาในประเทศไทยตลอดทั้งเสริมสร้างเอกภาพการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และกำหนดยุทธวิธีสำหรับตลาดร่วมยุโรปในปี ๒๕๓๕ พร้อมกันไปด้วยทางด้านนโยบายการค้าภายในประเทศนั้นรัฐบาลจะเน้นการเสริมสร้างเสถียรภาพด้านราคาสินค้าเกษตรเป็นพิเศษ โดยการเร่งพัฒนาตลาดกลางในลักษณะตลาดประมูลตลาดซื้อขายล่วงหน้า และกระจากการพัฒนาธุรกิจ คลังสินค้าไซโลและห้องเย็นในท้องถิ่นส่วนภูมิภาคให้มากขึ้น เพื่อให้เกษตรกรสามารถชะลอการขายผลผลิตซึ่งจะทำให้สามารถขายได้ในราคาที่สูงขึ้นด้านการบริการนอกเหนือจากการพัฒนาการท่องเที่ยวที่ก่อให้เกิดการสร้างงานและนำเงินตราต่างประเทศเข้ามามากขึ้นแล้วรัฐบาลจะริเริ่มการพัฒนาบริการด้านซ่อมบำรุงพาหนะทั้งทางบก น้ำ และอากาศ ให้เป็นศูนย์บำรุงใหญ่ในภูมิภาคนี้
นอกจากนั้นจะเน้นการส่งออกโดยปรับปรุงกลไกของทางราชการให้เกื้อหนุนการดำเนินงานของภาคเอกชนมากยิ่งขึ้น ตลอดจนปรับปรุงกฎหมายชั่ง ตวง วัดและกฎหมายบริษัทมหาชนให้สอดคล้องกับระบบการค้าปัจจุบันและการพัฒนาตลาดหลักทรัพย์เพื่อให้การคุ้มครองแก่สาธารณชนมิให้ถูกเอาเปรียบ หรือเผชิญกับความเสี่ยงมากเกินไป
๓.๕ การคมนาคมขนส่ง รัฐบาลจะเร่งดำเนินการขยายด้านบริการโทรคมนาคมและการสื่อสารให้รวดเร็วและมีบริการดีเพียงพอกับความต้องการของธุรกิจและประชาชนที่ขยายหรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทางด้านบริการขนส่งมวลชน จะเร่งให้มีบริการขนส่งมวลชนบนรางสูง ยกระดับรางรถไฟพร้อมทั้งปรับปรุงระบบการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารทุกระบบให้ผสมผสานกันให้สะดวก รวดเร็วปลอดภัยยิ่งขึ้น ทั้งนี้ รวมถึงการประสานระบบการขนส่งทางบก ทางน้ำและทางอากาศภายในและระหว่างประเทศให้สอดคล้องประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพต่อไปและสนับสนุนการสร้างสนามบิน เพื่อส่งเสริมด้านธุรกิจและงานท่องเที่ยวนอกจากนั้นจะสนับสนุนการสร้างทางตามกฎหมายสัมปทานและปรับปรุงงานด้านสาธารณูปโภคโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่จะเสริมกิจการโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมชายฝั่งทะเลตะวันออกรัฐบาลจะเร่งจัดการก่อสร้างทางหลวงวงแหวนรอบนอกให้แล้วเสร็จโดยด่วน พร้อมกับพิจารณาก่อสร้างอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำและตัดถนนทางเบี่ยงเพื่อลดปริมาณรถที่ต้องผ่านเข้ามาในเขตเมืองทางด้านทิศเหนือไปตะวันตกและไปทางตะวันออกตลอดทั้งการขยายถนนและเพิ่มช่องทางเพื่อเพิ่มผิวจราจรให้มากขึ้นและรื้อถอนสิ่งกีดขวางเพื่อให้การจราจรมีความคล่องตัวสูงขึ้นรวมทั้งการแก้ไขปัญหาการจราจรในต่างจังหวัดที่กำลังมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
๔. นโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี พลังงานและสิ่งแวดล้อมรัฐบาลจะเร่งการผลิตนักวิทยาศาสตร์ วิศวกรตลอดจนช่างเทคนิคให้เพียงพอและมีความสามารถเป็นที่ยอมรับ รวมทั้งผลิตอาจารย์มหาวิทยาลัยและนักวิจัยเพื่อสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรมเกษตรกรรม บริการ และการพัฒนาชนบทและสามารถรองรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากต่างประเทศได้โดยพัฒนาระบบข้อสนเทศเพื่อให้เอกชนสามารถนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศได้โดยพัฒนาระบบข้อสนเทศเพื่อให้เอกชนสามารถนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศในราคาและเงื่อนไขที่เหมาะสมอีกทั้งให้มีการจัดหาและผลิตพลังงานให้เพียงพอกับความต้องการของประเทศเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบจัดการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโดยปรับโครงสร้างสถาบันวิจัยของรัฐให้สามารถวิจัยและดึงดูดผู้ทรงคุณวุฒิไว้ในการวิจัย ตลอดทั้งปรับปรุงเครือข่ายการวิจัยของรัฐบาลสถาบันการศึกษาและภาคเอกชน ให้สามารถนำผลการวิจัยไปประยุกต์ใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ สำหรับการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอันเกิดจากภาวะมลพิษต่างๆ นั้นรัฐบาลให้ความสำคัญเร่งด่วนต่อการแก้ปัญหาภาวะมลพิษทางอากาศที่เกิดจากการจราจรติดขัดภาวะฝนกรด มลพิษทางน้ำทางอากาศที่เกิดจากโรงงานอุตสาหกรรมและกากของเสียที่เป็นพิษโดยมีเป้าหมายที่จะลดซัลเฟอร์ไดออกไซด์คาร์บอนมอนอกไซด์ไนโตรเจนไดออกไซด์และสารตะกั่วในน้ำมันเชื้อเพลิงให้อยู่ในมาตรฐานที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตลอดทั้งการปรับปรุงวิธีใช้ถ่านหินลิกไนต์ในกระบวนการผลิตไฟฟ้าเพื่อป้องกันการเกิดภาวะฝนกรดควบคู่ไปกับการกวดขันให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายในการควบคุมภาวะมลพิษอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในเรื่องการขจัดสารพิษจากยานพาหนะทุกชนิด เพื่อให้การบริหารและจัดการสิ่งแวดล้อมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพรัฐบาลมีนโยบายให้มีการจัดตั้งองค์กรร่วม ๓ ฝ่ายคือ ชุมชน สถานประกอบการ และภาครัฐบาลทำหน้าที่เฝ้าระวังและกำกับดูแลภาวะสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปตามาตรฐานที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะในเขตเมือง เขตอุตสาหกรรมและแหล่งท่องเที่ยวโดยให้ผู้ใช้ทรัพยากรธรรมชาตินั้นเป็นผู้รับภาระในการพัฒนาการอนุรักษ์และการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วยตลอดจนสนับสนุนให้มีการสร้างสวนสาธารณะในเขตเมือง
๕.นโยบายการป้องกันประเทศ รัฐบาลจะปรับปรุง พัฒนา และเสริมสร้างกำลังกองทัพให้มีขนาดที่เหมาะสมมีประสิทธิภาพพร้อมรบ ทันสมัย และปรับปรุงระบบกำลังสำรอง ระบบการระดมสรรพกำลังเพื่อการป้องกันประเทศและรักษาผลประโยชน์ของชาติ ตลอดจนผนึกกำลังป้องกันประเทศทั้งกำลังทหาร กำลังกึ่งทหารและกำลังประชาชน เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากภายในและภายนอกประเทศรวมทั้งคุ้มครองทรัพยากรของชาติด้วยรัฐบาลจะมุ่งพัฒนาขีดความสามารถในการพึ่งตนเองในด้านการป้องกันประเทศโดยสนับสนุนและส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาการทหาร รวมทั้งการผลิตยุทโธปกรณ์ภายในประเทศโดยร่วมมือกับส่วนราชการต่าง ๆ ภาคเอกชน และมิตรประเทศในขณะเดียวกันรัฐบาลจะสนับสนุนและส่งเสริมบทบาทของกองทัพ ในการพัฒนาประเทศ การพัฒนาเพื่อความมั่นคง การช่วยเหลือประชาชนและการบรรเทาสาธารณภัย อีกทั้งจะบำรุง เสริมสร้างขวัญกำลังใจของทหารและครอบครัวในด้านสวัสดิการและการดำรงชีพรวมทั้งสงเคราะห์ทหารผ่านศึกและครอบครัวให้ดำรงอยู่ได้ด้วยความเหมาะสมและสมเกียรติ
๖. นโยบายด้านต่างประเทศ รัฐบาลจะดำเนินนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระสอดคล้องกับสถานการณ์แวดล้อมของโลกและเสริมสร้างบทบาทของประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางโดยยึดถือประโยชน์ของชาติเป็นหลักทั้งจะใช้การต่างประเทศในการส่งเสริมความเจริญมั่งคั่งทางด้านเศรษฐกิจของชาติกับให้มีการประสานงานระหว่างหน่วยงานของรัฐและระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน เพื่อให้การดำเนินนโยบายมีประสิทธิภาพและเอกภาพมากยิ่งขึ้นรัฐบาลจะเคารพความตกลงที่ทำไว้กับต่างประเทศทั้งจะส่งเสริมให้มีการปฏิบัติตามหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติและปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาระหว่างประเทศและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของโลกรัฐบาลเน้นการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ โดยมุ่งขยายตลาดการค้าและการลงทุนและเสริมสร้างความเข้าใจอันดีกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อให้เกิดประโยชน์แห่งสันติภาพเสถียรภาพและความก้าวหน้าในภูมิภาคนี้ ทั้งจะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนต่อประชาชนโดยการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม สารนิเทศ การให้ความช่วยเหลือทางวิชาการเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างกันอีกทั้งเสริมสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้แน่นแฟ้นและใกล้ชิดยิ่งขึ้นและพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศมหาอำนาจและประเทศคู่ค้าที่สำคัญในภูมิภาคต่าง ๆ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก ภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย ภูมิภาคตะวันออกกลาง และภูมิภาคประเทศริมฝั่งแม่น้ำโขงนอกจากนั้นรัฐบาลจะดำเนินงานด้านสารนิเทศเพื่อให้ต่างประเทศมีความเข้าใจประเทศไทยดีขึ้น โดยการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่เอกลักษณ์ วัฒนธรรมไทยในต่างประเทศตลอดจนเน้นการคุ้มครองดูแลสิทธิประโยชน์ของคนไทยในต่างประเทศ
๗. นโยบายสังคม รัฐบาลกำหนดเป้าหมายการดำเนินนโยบายทางสังคมที่จะเสรมสร้างความสงบสุขและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยในด้านการศึกษา สุขภาพอนามัย ศีลธรรม และดำรงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของชาติโดยกำหนดนโยบาย ดังนี้
๗.๑ ความสงบเรียบร้อยในสังคม รัฐบาลจะเร่งป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทุกประเภทโดยเฉพาะอย่างยิ่งการประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินของประชาชน กับทั้งจะเร่งการปราบปรามอาวุธสงครามและผู้มีอิทธิพลในพื้นที่อย่างจริงจังและต่อเนื่องรวมทั้งส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมในท้องถิ่นด้วยรัฐบาลจะป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาดโดยร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการทำลายแหล่งผลิตยาเสพติดและขอความร่วมมือจากประเทศที่มีผู้ใช้ยาเสพติดสูงให้ร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังขณะเดียวกันจะเน้นการรณรงค์ในกลุ่มเยาวชนให้ตระหนักถึงโทษของยาเสพติดทั้งในและนอกสถานการศึกษาทั้งจะให้มีการจัดหลักสูตรการศึกษาในเรื่องนี้ต่อไปด้วยขณะเดียวกันรัฐบาลมุ่งเน้นให้การช่วยเหลือทางกฎหมายและสร้างความเสมอภาคในโอกาสที่ประชาชนจะได้รับความเป็นธรรมทางกฎหมายและรัฐบาลจะนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล รวมทั้งการพัฒนางานคุมประพฤติ การจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว และศาลปกครองตลอดทั้งการให้ความปลอดภัยแก่ประชาชนที่มาศาลและข้าราชการที่ปฏิบัติงานในศาลนอกจากนั้นจะส่งเสริมให้มีการระงับข้อพิพาทโดยวิธีการอนุญาโตตุลาการเพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ การลงทุน และแบ่งเบาภาระคดีที่ขึ้นสู่ศาลให้ลดลงด้วย
๗.๒ การศึกษา รัฐบาลมุ่งให้ความสำคัญต่อการเร่งขยายโอกาสการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาเพื่อเป็นฐานการขยายการศึกษาภาคบังคับ จาก ๖ ปี เป็น ๙ ปี ตลอดทั้งปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนให้มีเนื้อหาสาระเหมาะสมกับสภาพท้องถิ่นควบคู่ไปกับให้มีการเพิ่มพูนความรู้ผ่านระบบสื่อสารมวลชนต่าง ๆ
นอกจากนี้รัฐบาลมุ่งเน้นการเรียนการสอนคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เพื่อเป็นพื้นฐานในการส่งเสริมการผลิต และการใช้เทคโนโลยีในอนาคตและจะเร่งรัดการผลิตกำลังคนในสาขาวิชาชีพที่ขาดแคลนให้สามารถสนองความต้องการของตลาดแรงงานควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้สถานศึกษาได้เน้นกิจกรรมการพัฒนาด้านสุขภาพ และการออกกำลังกายแก่เด็กและเยาวชนให้มีพลานามัยสมบูรณ์หรือขีดความสามารถในการแข่งขันกีฬาระดับชาติและนานาชาติได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งการพัฒนาจิตใจโดยมุ่งเน้นการประพฤติปฏิบัติในทางที่ชอบที่ควรและการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตนรัฐบาลจะเสริมสร้างสวัสดิการขวัญและกำลังใจครูทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคให้มีความมั่นคงในอาชีพ โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่ห่างไกลขณะเดียวกัน รัฐบาลต้องการผ่อนคลายกฎระเบียบต่าง ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา โดยเฉพาะระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษารวมทั้งส่งเสริมให้มีการระดมทรัพยากร และความร่วมมือจากแหล่งต่าง ๆ ทั้งภายในและนอกประเทศมาสนับสนุนการดำเนินงานของสถาบันการศึกษาให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้นทางด้านการพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษานั้นรัฐบาลจะกระจายและขยายโอกาสการศึกษาระดับอุดมศึกษาไปสู่ภูมิภาคและชนบทให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยเน้นการเสริมปัจจัยทางการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและการงานของประชาชนอย่างต่อเนื่อง และจะพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาให้สามารถผลิตบัณฑิต การวิจัยการบริการทางวิชาการแก่สังคม และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมโดยเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพของการบริหารการพัฒนาบุคลากร การระดมทรัพยากรและความร่วมมือจากแหล่งต่าง ๆ ทั้งภายในและนอกประเทศมาสนับสนุนการดำเนินงานของสถาบันอุดมศึกษาและการส่งเสริมให้สถาบันอุดมศึกษาจัดการศึกษานานาชาติให้กว้างขวางมากขึ้นโดยเฉพาะการรับนักศึกษาจากประเทศเพื่อนบ้านและในภูมิภาคเข้าศึกษา
นอกจากนั้นจะเร่งรัดการผลิตและพัฒนากำลังคนในสาขาวิชาการและวิชาชีพให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานทั้งด้านปริมาณและคุณภาพอย่างเพียงพอและสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเพื่อเสริมสร้างความก้าวหน้าทางวิชาการ การนำผลไปใช้ในการพัฒนาประเทศ และช่วยให้ประเทศไทยพึ่งตนเองทางเทคโนโลยีได้มากขึ้น
รัฐบาลจะสนับสนุนให้เอกชนมีส่วนร่วมในการจัดการอุดมศึกษามากยิ่งขึ้นรวมทั้งส่งเสริมให้มีความร่วมมือและการร่วมใช้ความชำนาญการระหว่างสถาบันอุดมศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน และระหว่างสถาบันอุดมศึกษากับหน่วยงานภาคธุรกิจเอกชนอย่างกว้างขวางเพื่อให้สถาบันอุดมศึกษาพึ่งตนเองได้มากขึ้น
๗.๓ สาธารณสุข รัฐบาลยึดมั่นว่าการควบคุมและป้องกันโรคเอดส์เป็นนโยบายระดับชาติที่เร่งด่วนและมีความสำคัญสูงโดยจะเร่งรัดให้หน่วยงานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนร่วมรับผิดชอบปฏิบัติการป้องกันโรคเอดส์อย่างจริงจังต่อเนื่องต่อไป
รัฐบาลเน้นนโยบายการส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพแข็งแรงและมีความรู้ในการป้องกันโรคและรู้จักรักษาพยาบาลเบื้องต้นด้วยตนเองโดยเร่งพัฒนาคุณภาพงานสาธารณสุขมูลฐานในเขตชนบท และเร่งขยายงานสาธารณสุขมูลฐานในเขตเมืองมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน รัฐบาลเน้นการปรับปรุงสถานีอนามัยในชนบทให้สามารถบริการประชาชนโดยการเพิ่มบุคลากรด้านการแพทย์และเครื่องมือตลอดทั้งปรับปรุงโรงพยาบาลศูนย์ในส่วนภูมิภาคให้สามารถให้บริการแก่ประชาชนเพื่อลดความจำเป็นที่จะต้องเดินทางเข้ามารักษาพยาบาลในกรุงเทพมหานคร
รัฐบาลจะส่งเสริมหน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆ รวมทั้งภาคเอกชนให้มีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมที่ช่วยยกระดับสุขภาพอนามัยของประชาชนให้สูงขึ้น เร่งแก้ไขปัญหาทันตสาธารณสุข ปรับปรุงการสุขศึกษา โดยใช้เทคโนโลยีทางสื่อมวลชนและการศึกษาทั้งในและนอกระบบเพื่อให้เกิดพฤติกรรมสุขภาพที่ดีรวมทั้งการปรับปรุงมาตรการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสาธารณสุขและปัญหาสิ่งแวดล้อมให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
รัฐบาลจะส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเพื่อการฟื้นฟูการแพทย์แผนไทยและการใช้สมุนไพรให้เป็นประโยชน์แพร่หลายตามความต้องการของท้องถิ่นและพัฒนาอุตสาหกรรมยาภายในประเทศให้มั่นคงพึ่งตนเองได้ โดยเน้นความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพการบำบัดโรคในราคาที่เหมาะสมและกระจายไปสู่ผู้ใช้อย่างทั่วถึง ตลอดจนส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหาร ยา และอื่น ๆ เพื่อการส่งออก
นอกจากนี้รัฐบาลมีนโยบายเร่งปรับปรุงระบบการประกับสุขภาพที่มีอยู่ให้สอดคล้องกับการประกันสุขภาพตามพระราชบัญญัติประกันสังคมและให้การสงเคราะห์แก่ผู้ที่สังคมควรช่วยเหลือเกื้อกูล รวมทั้งเน้นการคุ้มครองผู้บริโภคทางด้านอาหารและยาด้วย
๗.๔ บริการสังคม รัฐบาลมีนโยบายประกันสังคมไปแล้วจึงจะได้เร่งจัดตั้งหน่วยงานรองรับและปรับปรุงกฎหมายให้มีความคล่องตัวในทางปฏิบัติด้วยขณะเดียวกันรัฐบาลจะเน้นการให้การสงเคราะห์ผู้ที่สังคมควรช่วยเหลือเกื้อกูล โดยสนับสนุนให้สถาบันครอบครัว ชุมชนและภาคเอกชนมีบทบาทในการดำเนินงานให้มากขึ้นและให้มีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีบทลงโทษผู้ล่อลวงเด็กเยาวชน และสตรีไปเพื่อการค้าประเวณีอย่างเฉียบขาด และให้พนักงานฝ่ายปกครอง ตำรวจ ร่วมมืออย่างใกล้ชิดและเอาจริงเอาจังในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวรัฐบาลจะเร่งพัฒนาระบบประปาและไฟฟ้าในชนบทให้ทั่วถึง
นอกจากนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญต่อความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินของประชาชนโดยเน้นการป้องกันบรรเทาและฟื้นฟูผลกระทบอันเนื่องมาจากสาธารณภัยทั้งในระดับจังหวัดและภูมิภาคควบคู่ไปกับการรณรงค์ให้ความรู้แก่ประชาชนในการป้องกันและบรรเทาอุบัติภัย การใช้แก๊ส ไฟฟ้าในเคหะสถาน
๘. นโยบายการกระจายรายได้
รัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาความยากจนและลดช่องว่างของรายได้โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญ คือกลุ่มเกษตรกรรายย่อยและลูกจ้างแรงงานเกษตรที่ยากจนในชนบท กลุ่มผู้ประกอบอาชีพส่วนตัวขนาดเล็กในเมือง กลุ่มผู้ใช้แรงงานและลูกจ้างที่มีรายได้ต่ำโดยกำหนดมาตรการที่เป็นรูปธรรม ดังนี้คือ
รัฐบาลมีนโยบายอย่างแน่นอนที่จะพยุงราคาข้าวและสินค้าเกษตรหลักโดยวิธีการแทรกแซงตลาดและจัดสร้างยุ้งฉาง และลานตากข้าวอย่างทั่วถึง เร่งรัดการส่งออกและทดลองใช้ระบบประกันภัยพืชผลเกษตรและปศุสัตว์ ให้เชื่อมโยงกับระบบสินเชื่อการผลิตการเกษตรเพื่อลดความเสี่ยงในด้านรายได้และผลผลิตการเกษตรของเกษตรกร
นอกจากนี้รัฐบาลมีนโยบายจะจัดตั้งกองทุนพิเศษเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยที่ยากจน และสอดส่องดูแลสวัสดิภาพของแรงงานรับจ้างในภาคเกษตรโดยเฉพาะความปลอดภัยในการทำงาน การให้การฝึกอบรมยกระดับฝีมือให้สามารถทำงานที่ได้ค่าจ้างสูงขึ้น
ในขณะเดียวกัน รัฐบาลจะให้ความสำคัญสูงต่อการขยายบริการการศึกษาฝึกอบรมแก่กลุ่มที่ด้อยโอกาสในสังคม คือ กลุ่มเด็ก เยาวชน และสตรีในเขตยากจนและผู้มีความบกพร่องทางร่างกายและสติปัญญาเป็นกรณีพิเศษโดยเฉพาะผู้ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือหาประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างไม่เป็นธรรม
สำหรับกลุ่มผู้ประกอบอาชีพส่วนตัวขนาดเล็ก กลุ่มผู้ใช้แรงงานและลูกจ้างในเขตเมืองนั้นรัฐบาลจะส่งเสริมและสนับสนุนโอกาสของผู้ใช้แรงงานให้เข้าถึงปัจจัยการผลิตโดยพัฒนาความรู้ ฝีมือ ทักษะ เพื่อให้มีรายได้ ค่าจ้าง สภาพการทำงานที่เหมาะสม เป็นธรรมทั้งจัดให้มีสวัสดิการสังคมให้แก่ผู้ประกอบอาชีพและผู้ใช้แรงงานอย่างทั่วถึงรัฐบาลมีนโยบายอำนวยความสะดวกและจัดสถานที่ให้แก่ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยให้เป็นหลักแหล่งชัดเจน ตลอดทั้งให้ความคุ้มครองสอดส่องสภาพแวดล้อมการทำงานให้แก่แรงงานก่อสร้างในเขตก่อสร้างและโรงงานให้ดีขึ้นทั้งสภาพแวดล้อมและความปลอดภัยต่อชีวิต ควบคู่ไปกับการปรับปรุงมาตรฐานการครองชีพโดยรัฐบาลจะเข้มงวดดูแลให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายค่าจ้างขั้นต่ำและกฎหมายความปลอดภัยในการทำงาน ตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนแออัดในเมืองอย่างเป็นระบบรวมทั้งจัดบริการเคหะสงเคราะห์ให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยด้วย
รัฐบาลมุ่งที่จะสร้างความเข้มแข็งขององค์กรประชาชนในระดับตำบลและหมู่บ้านให้มีบทบาทในการวางแผนและพัฒนาท้องถิ่นของตนเองมากขึ้นโดยพิจารณาปรับปรุงระบบการจัดสรรและแบ่งรายได้ที่เก็บจากการใช้ทรัพยากรธรรมชาติของท้องถิ่น เช่น ค่าภาคหลวง เป็นต้นให้กับท้องถิ่นและสนับสนุนให้องค์กรพัฒนาภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนทั้งในเขตเมืองและชนบทให้มากขึ้น
ท่านประธานรัฐสภาและท่านสมาชิกผู้มีเกียรติที่เคารพในการบริหารราชการแผ่นดินตามนโยบายที่ได้แถลงมาข้างต้นนี้ กระผมขอให้คำมั่นว่ารัฐบาลนี้จะปฏิบัติตามนโยบายโดยเคร่งครัดและเร่งด่วน เพื่อนำความเจริญก้าวหน้ามาสู่ประเทศชาติและความผาสุกมาสู่ประชาชนตามที่ได้แถลงไว้ทุกประการรัฐบาลเชื่อมั่นว่าด้วยความร่วมมือสนับสนุนจากท่านสมาชิกรัฐสภาผู้ทรงเกียรติ จะยิ่งเกื้อกูลให้นโยบายดังกล่าวสัมฤทธิผลได้อย่างดีและรวดเร็วยิ่งขึ้นจึงขอบคุณมา ณ โอกาสนี้
*รายงานการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ ๑/๒๕๓๔ (สมัยวิสามัญ) วันพุธที่ ๙ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๓๔ หน้า ๑๙ – ๓๘