คณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑๖


คณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑๖ นายปรีดี พนมยงค์ เป็นนายกรัฐมนตรี
แต่วันที ๑๑ มิถุนายน ๒๔๘๙ – ๒๓ สิงหาคม ๒๔๘๙
แถลงนโยบาย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๔๘๙

คำแถลงนโยบายของรัฐบาล*

ท่านประธานรัฐสภา

                  ด้วยตามที่ท่านสมาชิกวุฒิสภาและท่านสมาชิกสภาผู้แทนต้องการให้ข้าพเจ้ารับใช้ชาติต่อไปในยามคับขัน ข้าพเจ้าก็จำต้องสนองความต้องการของท่าน

               บัดนี้ ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งและแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีตามประกาศลงวันที่  ๑๑ มิถุนายน ๒๔๘๙ ดั่งที่ท่านได้ทราบแล้ว รัฐบาลจึ่งขอแถลงนโยบายต่อรัฐสภาดังต่อไปนี้

               ๑. แม้ว่าในขณะนี้สถานการณ์ของประเทศในส่วนที่เกี่ยวกับภายใน ความยากแค้นในการครองชีพและความสงบเรียบร้อยทั่วไป เพียงเริ่มจะบรรเทาลงบ้าง แต่ก็ยังเป็นภาระหนักอยู่มิใช่น้อยซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องพยายามฝ่าฝันในอันที่จะแก้ไขปรับปรุงให้เป็นที่เรียบร้อย และเป็นผลดีเพื่อประโยชน์สุขแก่ประชาชนในส่วนรวมให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

               ๒. การต่างประเทศ เนื่องจากพฤติการณ์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการผูกไมตรีอันดีกับสหประชาชาติและนานาประเทศ ตลอดทั้งการปฏิบัติการให้เขาเกิดมีความเชื่อถือขึ้นนั้นย่อมได้รับผลดียิ่งรัฐบาลนี้จึงจะดำเนินการอย่างเต็มความสามารถที่จะส่งเสริมสัมพันธไมตรีตลอดทั้งความเข้าใจอันดีซึ่งมีอยู่อย่างดีกับสหประชาชาติแล้วนั้นให้ดีขึ้น และร่วมมือกับสหประชาชาติ
ตามอุดมคติซึ่งองค์การนั้นได้วางไว้ในการนี้รัฐบาลหวังว่าจะได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่จากรัฐสภาทั้งนี้เพราะปัญหาการต่างประเทศบางเรื่องนั้นเป็นนโยบายของชาติโดยแท้และเพื่อแสดงให้นานาชาติเห็นอกเห็นใจว่าประชาชนคนไทยทั้งหลายมีความสมัครสมานกลมเกลียวประเทศไทยตั้งอยู่ในความสงบสุขบูชาความเป็นธรรมซึ่งตรงกับหลักการของสหประชาชาตินั้นเอง

               ๓. การทหารรัฐบาลนี้ถือว่ากำลังทหารที่มีอยู่นั้นเป็นของประเทศชาติโดยเฉพาะและจะได้ปรับปรุงการจัดการปกครองทางทหารให้สอดคล้องกับการปกครองแบบประชาธิปไตยตามที่เหมาะสมกับประเทศของเราจะได้จัดการปรับปรุงวิทยฐานะผู้บังคับบัญชาการให้มีสมรรถภาพสูงขึ้นบำรุงความสุขของทหารและให้ทหารได้อยู่ในระเบียบวินัยโดยเคร่งครัด

               ๔. การคลังจะจัดหาเงินโดยวิธีที่เหมาะสมเพื่อการใช้จ่ายพอสมควรของรัฐในอันจะบูรณะบ้านเมืองให้ดำเนินกลับไปสู่สภาพปกติ

               จะปรับปรุงรายได้และรายจ่ายเพื่องบประมาณแผ่นดินเป็นดุลยภาพ

               จะจัดหาเงินตราเสถียรภาพในระดับอันสมควรแก่ภาวะเศรษฐกิจเพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างราคาสินค้าและค่าจ้างได้กลับคืนสู่สภาพปกติ และให้การค้าและธุรกิจได้อาศัยหลักที่มั่นคงยั่งยืนสืบไป

               ๕. การเกษตร รัฐบาลนี้จะได้สนใจและเอาใจใส่ในเรื่องการเกษตรกรรมเป็นพิเศษจะพยายามเพิ่มพูนการผลิตข้าวให้ได้มากที่สุดเท่าที่สามารถจะทำได้และจะส่งเสริมการเพาะปลูกพืชอื่นที่เป็นสินค้าของประเทศให้มีปริมาณมากขึ้น จะจัดให้มีสถานศึกษาทางปฏิบัติในวิชาการเกษตรสถานศึกษาทางปฏิบัติในวิชาการเกษตรนอกเหนือจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่มีอยู่ในเวลานี้
เพื่ออบรมและเพาะให้เกิดกสิกรชั้นกลางขึ้น จะได้รีบเร่งการผลิตวัคซีนสำหรับป้องกันโรคระบาดสัตว์ให้มีปริมาณเพิ่มขึ้นกับทั้งจะเร่งบำรุงพันธุ์สัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ โค สุกร เป็ด ไก่ ให้มีปริมาณและคุณภาพมากและดียิ่งขึ้นจะได้จัดหาวิธีควบคุมแพปลา เพื่อให้การค้าของชาวประมงได้เป็นไปโดยยุติธรรม จะได้ส่งเสริมการทำยางพาราให้มีปริมาณเพิ่มขึ้นอีกทั้งจะหาพันธุ์ยางที่ดีมา
เผยแพร่แก่เจ้าของสวนยางอีกด้วยจะได้ปรับปรุงโครงการป่าไม้เสียใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน จะได้ก่อสร้างการชลประทานบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา และโครงการอื่น ๆตลอดจนสนับสนุนการชลประทานท้องที่ จะส่งเสริมการสหกรณ์และจัดให้มีการสหกรณ์ขนส่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเบื้องต้นคือ การขนข้าวและสหกรณ์รูปอื่นเท่าที่สามารถจะทำได้ และจะเปิดธนาคาร
เพื่อการสหกรณ์โดยเฉพาะขึ้นและจะได้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของสหกรณ์ ให้มีอัตราต่ำลงกว่าที่เป็นอยู่ในเวลานี้

               ๖. การสาธารณสุข กิจการสาธารณสุขอันกล่าวได้ว่ามีรากฐานอันสำคัญอยู่ ๔ ประการ ได้แก่การผลิตหมอ ผลิตยา รักษาและป้องกันนั้นยังเป็นผลไม่สมบูรณ์พอแก่การดั่งเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วรัฐบาลมีความมุ่งหมายที่จะปรับปรุงเพิ่มเติมให้ได้ผลสมบูรณ์ขึ้นจนเพียงพอแก่การโดยลำดับ อาทิเช่น การผลิตแพทย์ที่เรียนสำเร็จออกจากมหาวิทยาลัย ก็จะให้ได้จำนวนมากขึ้นการผลิตยาสำหรับรักษาป้องกันโรคจะให้ได้ปริมาณและชนิดยาที่จำเป็นทวีขึ้นจนพอสำหรับใช้ สิ่งใดที่ยังขาดและไม่สามารถจะผลิตขึ้นเองได้ก็จะหาซื้อเพิ่มเติมทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ การรักษาพยาบาลซึ่งยังมีสถานที่ไม่พอเพียง โดยโรงพยาบาลยังไม่มีทั่วทุกจังหวัดก็จะได้พยายามจัดสร้างขึ้นให้ทั่วถึง ตลอดทั้งเครื่องใช้เครื่องมือ ยาลำดับต่อไปการป้องกันมิให้โรคเกิดลุกลามระบาดแพร่หลายก็จะได้มีปรับปรุงวิธีการเพิ่มกำลังงานให้เหมาะสมทั่วถึงตลอดไปตามท้องที่และจะได้จัดให้มีการจำหน่ายยาที่จำเป็นโดยแพร่หลายตามชนบทจัดเจ้าหน้าที่ทำการอบรมพลเมืองให้มีความรู้ในการรักษาสุขภาพอนามัย และวิธีป้องกันโรคโดยตนเองตามสมควร ในด้านการศึกษาก็จะได้ช่วยการสาธารณสุขโดยให้นักเรียนรับความรู้ในเรื่องรักษาสุขภาพอนามัยและการป้องกันโรคตามสมควรแก่อัตภาพด้วย

               อนึ่ง โรคระบาดมีไข้ทรพิษและอหิวาตกโรค ซึ่งค่อยบรรเทาเบาบางลงแล้วแต่ยังไม่สงบโดยทั่วไปนั้นรัฐบาลก็จะได้เร่งรัดการปราบปรามให้สงบลงโดยทั่วถึงและทำการป้องกันเป็นพิเศษต่อไปอีกเป็นระยะ ๒ – ๓ ปีเพื่อมิให้โรคระบาดรุนแรงขึ้นอีก ส่วนไข้มาลาเรียซึ่งมีชุกชุมอยู่ในท้องที่ต่าง ๆ นั้นรัฐบาลก็จะได้ขยายกำลังการรักษาป้องกันให้เบาบางลงโดยทำนองเดียวกัน

               ๗. การอุตสาหกรรมรัฐบาลจะได้ปรับปรุงกิจการภายในโรงงานอุตสาหกรรมให้มีสมรรถภาพในการผลิต และจะได้ส่งเสริมการอุตสาหกรรมของเอกชนและสหกรณ์ให้มีปริมาณเพิ่มขึ้นทั้งจะดำเนินการสืบสวนค้นคว้าในทางวิทยาศาสตร์ เพื่อเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรม กสิกรรมและพาณิชยกรรมของประเทศให้เจริญก้าวหน้าเพื่อประโยชน์แก่ราชการและเพื่อเผยแพร่แก่ประชาชน
ในทางโลหกิจจะได้ดำเนินงานในทางวิชาการแก่การสำรวจธรณีวิทยาเพื่อค้นคว้าหาแหล่งแร่ วัตถุเชื้อเพลิงที่ใช้แทนไม้ เช่น ถ่านหิน และน้ำมัน เป็นต้นและจะช่วยเหลือผู้ทำเหมืองแร่โดยจัดหาเครื่องมือเครื่องใช้อันเป็นอุปกรณ์ในการทำเหมืองเพื่อเร่งการผลิตดีบุกให้ได้ปริมาณเพิ่มขึ้น

               ๘. การคมนาคม ในหลักทั่วไปรัฐบาลจะจัดการบำรุงและบูรณะการสื่อสาร ทางรถไฟ การทางและการขนส่งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศให้กลับสู่สภาพก่อนสงคราม

               งานใดที่สมควรจะมีโครงการไว้แน่นอนรัฐบาลก็จะได้จัดทำโครงการขึ้นให้สอดคล้องกับกำลังคนและกำลังเงินของประเทศ

               ๙. การพาณิชย์ ในด้านการพาณิชย์ รัฐบาลจะได้มีการพิจารณาปรับปรุงกิจการบริหารในกระทรวงพาณิชย์ให้มีประสิทธิภาพเพื่อการพาณิชย์ ในยามปกติภายหลังสงครามทั้งจะได้ควบคุมและส่งเสริมการค้าทั้งภายในและภายนอกประเทศให้เหมาะสมกับเศรษฐกิจของประเทศยิ่งขึ้นและแก้ไขการครองชีพของราษฎรให้อยู่ในฐานะอันสมควรแก่กาลสมัย

               ในทางการค้าภายใน

               รัฐบาลนี้จะได้ส่งเสริมให้คนไทยนิยมการค้าให้เป็นล่ำเป็นสันยิ่งขึ้นและจะได้ส่งเสริมให้มีร้านสหกรณ์เปิดขึ้นเพื่อประโยชน์ของชาวนาต่อไปด้วย

               ส่วนในด้านการค้าต่างประเทศ

รัฐบาลจะได้ส่งเสริมและเผยแพร่สินค้าของประเทศไทยออกไปยังต่างประเทศให้เป็นที่นิยมทั้งในทางคุณภาพและปริมาณยิ่งขึ้น

               ๑๐. การมหาดไทยความสงบเรียบร้อยภายในเป็นความปรารถนาอย่างยิ่งที่จะต้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวกับการปราบปรามโจรผู้ร้ายต่อเนื่องตลอดไปอีกในขณะเดียวกันจะได้ส่งเสริมให้ราษฎรได้กลับคืนเข้าสู่สภาพการครองชีพตามปกติและโดยวิธีการร่วมมือกับองค์การหรือกระทรวงทบวงกรมอื่น ๆ เพื่อให้ราษฎรได้ประกอบอาชีพที่เป็นหลักฐานยิ่งขึ้นในยามที่สงครามผ่านพ้นไปใหม่ ๆ เช่นนี้ปัญหาเรื่องจิตใจซึ่งถูกกระทบกระเทือนและเสื่อมโทรมลงไปจะได้ทางแก้ไขโดยชี้แจงและชักชวนให้ได้รู้สึกถึงหน้าที่ในฐานะเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย

               เพื่อที่จะให้เป็นผลสมความมุ่งหมายดังกล่าวแล้ว จะได้ดำเนินการดังต่อไปนี้

                   (ก)    การตำรวจ จะได้ปรับปรุงสมรรถภาพของตำรวจเพื่อให้เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามที่เข้มแข็งโดยร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองโดยใกล้ชิด

                   (ข)    การปกครองท้องที่ นอกจากจะได้ปรับปรุงเจ้าหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นแล้วยังจะได้แก้ไขระบบการปกครองเพื่อให้หมู่บ้านและตำบลได้รับการทำนุบำรุงโดยทั่วถึงยิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในเวลานี้

                   (ค)    การราชทัณฑ์จะดำเนินการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังตามหลักการราชทัณฑ์และปลูกฝังให้อาชญากรได้รับความรู้ในวิชาชีพในที่คุมขัง

                   (ง)    การสาธารณูปโภค จะได้ส่งเสริมและได้เร่งรัดในการจัดประปาและไฟฟ้าเพื่อความสะดวกและความปลอดภัยให้มีขึ้นในท้องถิ่น ชุมนุมชนให้มากที่สุดที่จะทำได้ และจะได้จัดระเบียบการผังเมืองส่งเสริมให้มีการก่อสร้างอาคารที่อยู่อาศัยให้เป็นไปโดยประหยัดและเหมาะสมแก่สภาพของท้องที่

                   (จ)    การที่ดิน จะได้เร่งรัดและส่งเสริมบรรดาการกระทำทั้งปวงซึ่งรัฐบาลก่อนได้เริ่มดำเนินการไว้แล้วให้เป็นผลดียิ่งขึ้นเช่นการช่วยบุคคลที่ตั้งใจจะประกอบอาชีพในทางกสิกรรมให้ได้รับความสะดวกในการจับจองที่ดินรกร้างว่างเปล่า และการจัดให้ผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินแล้วได้รับหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองโดยรวดเร็ว เป็นต้น

                   (ฉ)    การประชาสงเคราะห์ บรรดาการสงเคราะห์ต่าง ๆ ซึ่งได้ปฏิบัติอยู่แล้วจะได้ดำเนินการต่อไปและถ้ามีกำลังเพียงพอจะได้ขยายการสงเคราะห์ให้มากขึ้น

               ๑๑. การศาล

                   (ก)    จะรักษาและส่งเสริมฐานะของผู้พิพากษาตามควรแก่อิสระที่มีในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดี

                   (ข)    จะสอดส่องให้กระบวนพิจารณาให้ศาลดำเนินไปโดยเร็ว เพื่อประโยชน์ของประชาชนและเฉพาะอย่างยิ่งจะได้พิจารณาเพิ่มจำนวนผู้พิพากษาให้สมส่วนกับจำนวนคดีที่เกิดขึ้น

                   (ค)    จะได้พิจารณาตั้งศาลในภูมิภาคเพิ่มขึ้น เพื่อให้ความสะดวกแก่ประชาชน ผู้เกี่ยวข้องในทางอรรถคดี และมิให้เสียเวลาในการประกอบอาชีพ

                   (ง)    จะปรับปรุงประมวลกฎหมายต่าง ๆ และพระธรรมนูญศาลยุติธรรมให้เหมาะสมกับกาลสมัยเพื่อพยุงสิทธิและเสรีภาพของประชาชน

               ๑๒. การศึกษาและการศาสนา รัฐบาลนี้จะวางแผนการศึกษาของชาติให้มีรากฐานถาวรแนวทางการศึกษาคงแบ่งเป็นสามัญศึกษากับอาชีวศึกษาหลักสูตรตำราเรียนจะปรับปรุงใหม่ให้เหมาะสมกับความต้องการของประเทศและความเป็นอยู่ของท้องถิ่นโดยจะให้ผู้ที่ได้รับการศึกษารู้จักค้นคว้าหาเหตุผลและมีศีลธรรมอันดีงาม ทั้งมีความรู้อันจำเป็นที่จะประกอบการอาชีพตามที่ตนต้องการเฉพาะอย่างยิ่งในทางเกษตรกรรมและพาณิชยกรรม

               การศึกษาจะดีก็ต้องมีครูดี ฉะนั้นการศึกษาวิชาครูการบำรุงฐานะของครูให้เป็นที่เคารพนับถือแก่บรรดาศิษย์จึงเป็นภารกิจอันยิ่งใหญ่ของกระทรวงศึกษาธิการ

               ในด้านการศาสนานั้น รัฐบาลนี้จะเร่งส่งเสริมและทำนุบำรุงศาสนาและถือว่าความเชื่อมั่นยึดเหนี่ยวในทางศาสนา เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการละเว้นประพฤติในสิ่งที่ไม่ชอบไม่ควรรัฐบาลนี้ถือว่าการศึกษากับศาสนาเป็นสิ่งที่อุปการะแก่กัน ผู้มีความรู้ต้องมีศีลมีสัตย์อยู่ในตนด้วย

               ในที่สุดนี้ หวังว่ารัฐสภาจะได้พิจารณาตามนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงไว้แล้วด้วยดี และพิจารณาดำเนินตามมาตรา ๖๙ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

*รายงานการประชุมรัฐสภา ครั้งที่ ๒ วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๘๙ หน้า ๑๐ – ๑๕

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของท่านได้โดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ (Functional Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ เพื่อจดจำตัวเลือกต่างๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรียังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และ ไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

บันทึกการตั้งค่า