คณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑๔


คณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑๔ พันตรี ควง อภัยวงศ์ เป็นนายกรัฐมนตรี
ตั้งแต่วันที่ ๓๑ มกราคม ๒๔๘๙ – ๑๘ มีนาคม ๒๔๘๙
แถลงนโยบาย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๙

คำแถลงนโยบายของรัฐบาล*

ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร และท่านสมาชิกผู้มีเกียรติทั้งหลาย

เนื่องจากได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าพเจ้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามประกาศตั้งนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๓๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๘๙ บัดนี้ข้าพเจ้าได้จัดตั้งคณะรัฐมนตรีเสร็จแล้วดังปรากฏตามประกาศตั้งและแต่งตั้งรัฐมนตรี ลงวันที่ ๒
กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๔๘๙ จึงใคร่ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๕๐

รัฐบาลนี้ย่อมทราบดีอยู่ว่าได้เข้ามารับหน้าที่ในขณะที่บ้านเมืองกำลังตกอยู่ในฐานะที่ยากลำบากเป็นอย่างยิ่ง มีสิ่งที่จะต้องแก้ไขปรับปรุงหลายอย่างทั้งที่เกี่ยวกับการภายในและภายนอกเพื่อยังประเทศให้กลับคืนเข้าสู่สภาพอันมั่นคงการที่จะดำเนินการดั่งว่านี้ให้ลุล่วงไปได้ย่อมมีหลักสำคัญ ๒ ประการ คือต้องรีบปรับปรุงสัมพันธภาพกับต่างประเทศให้เข้าระดับปกติประการหนึ่งกับจัดการบ้านเมืองภายในให้กลับเข้าระเบียบอันดีอีกประการหนึ่ง ในด้านต่างประเทศจะได้พยายามแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่ยังคั่งค้างอยู่ให้สำเร็จลุล่วงไปโดยการร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสหประชาชาติเพื่อความปลอดภัยและป้องกันการกระทบกระเทือนจากภายนอกส่วนการปรับปรุงกิจการบ้านเมืองอันเป็นการภายในนั้นหัวใจของเรื่องอยู่ที่จะต้องจัดให้ประเทศได้มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันสมบูรณ์เพื่อราษฎรทั้งประเทศจะได้มีส่วนมีเสียงในการปกครองตนเองโดยแท้จริงอันเป็นทางดีที่สุดที่จะรักษาประโยชน์ของราษฎร ด้วยเหตุนี้ในสมัยที่ข้าพเจ้าดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะรัฐบาลคราวที่แล้วมารัฐบาลในครั้งนั้นจึงได้เป็นผู้ริเริ่มเสนอให้มีการแก้ไขปรับปรุงรัฐธรรมนูญเพื่อให้เหมาะสมแก่กาลสมัยยิ่งขึ้นเมื่อข้าพเจ้าได้กลับเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าคณะรัฐบาลอีกในครั้งนี้รัฐบาล

ปัจจุบันก็มีเจตต์จำนงค์อันแน่วแน่ที่จะดำเนินการแก้ไข ปรับปรุงรัฐธรรมนูญที่ได้ริเริ่มไว้แล้วให้เสร็จสิ้นไปด้วยดีดังกล่าวข้างต้นนอกจากนั้นก็จะพยายามแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งในเรื่องที่เกี่ยวกับการเงิน การเศรษฐกิจ การครองชีพของราษฎรการรักษาความปลอดภัยภายในการส่งเสริมการศึกษาการส่งเสริมสมรรถภาพและความเที่ยงธรรมของข้าราชการตลอดจนช่วยผดุงศีลธรรม
ของประชาชนทั่ว ๆ ไป

รัฐบาลของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีนโยบายรวมใจความสำคัญโดยย่อดังนี้ ถ้าสภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบด้วย ข้าพเจ้าขอให้ท่านทั้งหลายโปรดให้ความร่วมมืออย่างจริงใจเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะคับขันที่เป็นอยู่ในขณะนี้ซึ่งทุกคนย่อมตระหนักว่าเป็นเวลาที่เราทั้งหลายจะต้องสามัคคีร่วมแรงร่วมใจช่วยกันแก้ไขสถานะการณ์ที่ยุ่งยากอยู่ในเวลานี้ให้ผ่านพ้นไปให้จงได้

*รายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ ๓/๒๔๘๙ (สามัญ) สมัยที่ ๒ ชุดที่ ๔ วันพฤหัสบดีที่ ๗ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๔๘๙ หน้า ๑๖ – ๑๗

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของท่านได้โดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ (Functional Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ เพื่อจดจำตัวเลือกต่างๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรียังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และ ไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

บันทึกการตั้งค่า