คณะรัฐมนตรี คณะที่ ๓


คณะรัฐมนตรี คณะที่ ๓ พระยามโนปกรณนิติธาดา (ก้อน หุตะสิงห์) เป็นนายกรัฐมนตรี
ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๔๗๖ – ๒๐ มิถุนายน ๒๔๗๖
คำแถลงนโยบายของรัฐบาล*

               เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรลงมติไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญได้ในวันนี้ ข้าพเจ้าของแถลงนโยบายของรัฐบาลให้ที่ประชุมฟัง ดังนี้

               รัฐบาลนี้จะดำเนินนโยบายตามหลัก ๖ ประการ ต่อจากรัฐบาลที่แล้วมา เพื่อให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้าสืบไปตามวิถีทางรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขของชาติ

               บัดนี้ ราชการในพระราชสำนักได้จัดขึ้นเป็นกระทรวง มีรัฐมนตรีว่าการแล้วเป็นอันว่าจะได้เข้าสู่ฐานะที่สมสภาพและสมพระเกรียติยศต่อไป

               ความเป็นเอกราชของชาติจะบริบรูณ์ ก็ต่อเมื่อใช้อำนาจอธิปไตยได้เต็มที่รัฐบาลนี้จะได้เร่งรัดให้ประกาศใช้ประมวลกฎหมายที่ยังค้างอยู่นั้นโดยเร็วที่สุด

               ฝ่ายอำนาจตุลาการนั้น รัฐบาลนี้จะได้จัดให้เป็นอิสระสมดังความจำนงในรัฐธรรมนูญ โดยจัดตั้งคณะกรรมการตุลาการเพื่อช่วยเหลือกิจการทางศาล ในอันจะให้ความอิสระแก่ผู้พิพากษาตามรัฐธรรมนูญ โดยจัดฐานะตุลาการให้มั่นคงตามความต้องการโดยจัดแยกตำแหน่งหน้าที่ตุลาการให้ขาดจากการเมือง กับจะได้ตั้งกรรมการประมวลข้อบังคับและระเบียบศาลให้เรียบร้อยเป็นแบบเดียวกันทั่วราชอาณาจักร

              ส่วนอำนาจบริหารนั้น ในเวลานี้มีกรณียกิจเบื้องต้นในอันจะรักษาความสงบ ความมั่นคงและความสามัคคี รัฐบาลนี้จะป้องภัยต่อสันติภาพของประชาชนทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นภัยเนื่องมาแต่การกบฏ การคอมมิวนิสต์หรือการระส่ำระสายใด ๆ อื่น

              รัฐบาลนี้จะส่งเสริมพระราชไมตรีกับนานาประเทศ ซึ่งมีอยู่แล้วเป็นอย่างดีนั้นให้สนิทสนมยิ่งขึ้น

              เมื่อทางพระราชไมตรีเป็นที่เรียบร้อยอยู่เช่นนั้น ความสงบอันจะพึงรักษาก็คือความสงบภายในเป็นสำคัญ ฝ่ายทหารได้เตรียมพร้อมที่จะเข้าช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ปกครองท้องถิ่นในเมื่อมีเหตุฉุกเฉินขึ้น

              ทางฝ่ายกระทรวงมหาดไทย ก็ได้วางนโยบายในการรักษาความปลอดภัยไว้อย่างกว้างขวาง เช่น  จะได้บำรุงกำลังและปรับปรุงระเบียบการของตำรวจและของเจ้าหน้าที่กรมมหาดไทยไห้ดียิ่งขึ้น และจะได้จัดการราชทัณฑ์ ไปในทางอบรมดัดนิสัยสันดารเพื่อให้นักโทษมีนิสัยไปทางทำงานและทำคุณประโยชน์

              แต่ในทางรักษาสันติสุขนั้น นอกจากวิธีปราบแล้ว จะต้องใช้วิธีบำรุงประกอบไปด้วย รัฐบาลจะบำรุงการสาธารณสุขโดยขยายการบำบัดโรคและการอนามัยให้แพร่หลายยิ่งขึ้น และโดยจัดให้มีผู้ตรวจการสุขาภิบาล ซึ่งมีความรู้ในการสุขาภิบาลแผนปัจจุบัน เพื่อช่อยเหลือราษฎรตามชนบทต่าง ๆ รัฐบาลจะบำรุงการสาธารณูปการ  โดยจัดให้มีการสงเคราะห์คนอนาถาและคนทุพพลภาพ รัฐบาลจะบำรุงความผาสุกของประชาชนพลเมืองทั่งไป โดยส่งเสริมเทศบาลการศึกษาและเศรษฐกิจ

              เทศบาล คือระเบียบการปกครองท้องถิ่น ซึ่งราษฎรมีเสียงในการดูแลและจัดการผลประโยชน์ในท้องถิ่นนั้น รัฐบาลนี้จะได้จัดตั้งและขยายเทศบาลออกไปตามตำบลต่าง ๆ ทั่งราชอาณาจักรโดยเร็วที่สุดที่จะอบรมเจ้าหน้าที่ในการใหม่นี้ได้ เทศบาลเป็นการศึกษาอย่างหนึ่งด้วยคือ เป็นวิธีราษฎรจะได้รับความฝึกหัดอบรมในวิธีการปกครองแบบรัฐธรรมนูญนั้นด้วย

             ส่วนการศึกษานั้น มีแผนการศึกษาและมีนโยบายวางไว้เป็นบรรทัดฐานดีแล้วรัฐบาลนี้จะได้หาวิธีทางดี ซึ่งจะได้นำไปให้ถึงจุดที่หลายให้พลเมืองรู้จักระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย ให้ได้มีความเป็นอยู่เหมาะสมแก่สมัยรัฐธรรมนูญ รัฐบาลนี้จะได้ดำเนินการตามแนวความคิดนี้ให้ได้ผลอันไพบูลย์ยิ่งขึ้นเป็นลำดับ ในการจะฝึกฝนให้ประชาชนเป็นพลเมืองดีนั้น จะต้องฝึกฝนทั้งทางการจรรยาและใจ รวมกันไป และให้ผู้ที่ได้รับการศึกษาแล้วได้ดำเนินการอาชีพ ปฏิบัติหน้าที่พลเมืองตามรัฐธรรมนูญได้ดี รัฐบาลนี้จะได้บำรุงการศึกษาทางอาชีพและการหาวิชาความรู้ตามความต้องการแห่งรัฐธรรมนูญ เป็นต้นว่าขยายประถมศึกษาให้แพร่หลายและขยายการศึกษาวิชาการรัฐธรรมนูญ ยึดถือการปฏิบัติฝึกหัด งานให้สำคัญยิ่งขึ้นกว่าที่แล้วมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ผู้ที่ผ่านพ้นการศึกษาในโรงเรียนไปแล้ว ได้มีโอกาสฝึกฝนตนเองได้ไม่ละทิ้งเสีย และให้ทุกคนมีโอกาสหาความรู้ได้อย่างเต็มที่ที่จะจัดได้ตามระบอบประชาธิปไตย รัฐบาลนี้จะบำรุงพลศึกษาให้เป็นการศึกษาเพื่อวินัยด้วย ส่วนในเรื่องธรรมกับการศึกษานั้น รัฐบาลนี้เห็นว่าควรจะเป็นอุปการะแก่กันและกันจึงจะได้บำรุงส่งเสริมและจัดการให้ได้ประสานงานกันอย่างสนิทสนมดียิ่งขึ้น อนึ่งในทางศิลปของชาติ รัฐบาลนี้ก็จะไม่ละเลย แต่หากจะบำรุงเท่าที่จะทำได้ ส่วนวิธีการศึกษา ศึกษาโดยทั่วไปที่จะให้ได้ประโยชน์สมหวังดังว่ามานั้น รัฐบาลนี้จะจัดการปรับปรุงหลักสูตรและสรรพตำรา กับทั้งบำรุงฐานะและคุณสมบัติของครูและอาจารย์ให้สมกับวิชาครูเป็นวิชาชีพและที่ครูจะเป็นผู้อบรมสั่งสอนกุลบุตรกุลธิดาสืบไป

             การบำรุงเศรษฐกิจของบ้านเมืองนั้น รัฐบาลก่อนได้วางแผนการเป็นทางดำเนินการไปแล้ว รัฐบาลนี้จะดำเนินการตามแผนการนั้นตลอดไป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการจะได้แถลงนโยบายรายละเอียดให้ทราบ

             อุปสรรคเรื่องข้าวราคาตกนั้น รัฐบาลกำลังพยายามแก้ไขอยู่แล้ว จะได้ให้ทราบนโยบายในเวลาอันควร

             ตามฐานะเศรษฐกิจเวลานี้ ยังจะหวังไม่ได้ว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นจะต้องระมัดระวังรายจ่าย งบประมาณจึงจะเข้าสู่ดุลยภาพ และอยู่มีความมั่นคงได้แต่รัฐบาลนี้จะปรับปรุงวิธีการเก็บภาษีอากรบางอย่างเพื่อให้ได้เงินซึ่งควรจะได้ และเพื่อบรรเทาภาระของราษฎร รัฐบาลนี้จะหาทางลดเงินรัชชูปการลงตามสมควร ในส่วนการบำรุงเศรษฐกิจนั้น ถ้ารายจ่ายอันใดจำเป็น เช่นว่า จะตั้งฉางก็ดี ขยายสหกรณ์ก็ดี หรือบำรุงรักษาและขยายกิจการที่ได้ลงทุนไปแล้ว เช่น การชลประทาน การรถไฟ และการสร้างถนนก็ดี  รัฐบาลจะจัดสรรเงินมาตั้งจ่ายให้ ข้อสำคัญอีกข้อหนึ่งคือความมั่นคงแห่งเงินตรา ซึ่งรัฐบาลเชื่อว่าการที่จะรักษาอัตราแลกเปลี่ยนเงินให้คงที่ดังได้กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติเงินตรานั้น เป็นทางที่ควรสำหรับกรุงสยาม

            ราชการส่วนต่าง ๆ จะดำเนินไปได้สะดวก ก็ย่อยแล้วแต่สมรรถภาพของข้าราชการ รัฐบาลนี้จะปรับปรุงระเบียบข้าราชการพลเรือน เพื่อให้โอกาสแก่ผู้ที่มีความรู้และความสามารถจริง ๆ ให้มั่งคงแก่ข้าราชการประจำนั้น ๆ

            เพื่อให้ราษฎรได้รับการปกครองในทางที่เป็นธรรม รัฐบาลนี้จะได้วางบทวิเคราะห์คดีปกครอง และวางวิธีพิจารณาคดีปกครอง

            ความมุ่งหมายอันยิ่งใหญ่ของรัฐบาลนี้ก็คือ จะบำรุงฐานะของราษฎรให้เป็นพลเมืองดีตามวิถีรัฐธรรมนูญ ซึ่งสำนักงานโฆษณาการจะได้ดำเนินการเผยแพร่อบรมต่อไป

            ด้วยความช่วยเหลือของท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลนี้หวังว่าประชาชนชาวไทยจะเจริญก้าวหน้าด้วยความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรัฐธรรมนูญสืบไป

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของท่านได้โดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ (Functional Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ เพื่อจดจำตัวเลือกต่างๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรียังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และ ไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

บันทึกการตั้งค่า