ลำดับความเป็นมาของคณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 16


 (11 มิถุนายน 2489 – 23 สิงหาคม 2489)

นายปรีดี พนมยงค์ เป็นนายกรัฐมนตรี ประกาศพระบรมราชโองการเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2489 คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ชั่วคราวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 11 ประกอบด้วย พระสุธรรมวินิจฉัย พระยานลราชสุวัจน์ (ทองดี นลราชสุวัจน์) และนายสงวน จูทะเตมีย์ เป็นผู้ลงนามในประกาศ พันตรี วิลาศ โอสถานนท์ประธานพฤฒสภา และนายเกษม บุญศรี ประธานสภาผู้แทนลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ และในวันที่ 11 มิถุนายน 2489 มีการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ดังนี้

รายชื่อคณะรัฐมนตรี

1. พลโท จิระ วิชิตสงคราม

เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

2. นายปรีดี พนมยงค์

เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

3. นายดิเรก ชัยนาม

เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

4. นายทวี บุณยเกตุ

เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการ

5. พระยาสุนทรพิพิธ (เชย มัฆวิบูลย์)

เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

6. นายทองอินทร์ ภูริพัฒน์

เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

7. หม่อมหลวงกรี เดชาติวงศ์

เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

8. นายสพรั่ง เทพหัสดิน ณ อยุธยา

เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

9. พันเอก ช่วง เชวงศักดิ์สงคราม

เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

10. พลเรือตรี ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์

เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

11. นายเดือน บุนนาค

เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

12. พันเอก ทวน วิชัยขัทคะ

เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม

13. นายวิจิตร ลุลิตานนท์

เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

14. พันเอก พระยาสุรพันธเสนี (อิ้น บุนนาค)

เป็นรัฐมนตรี

15. ขุนระดับคดี (ปัญญา รมยานนท์)

เป็นรัฐมนตรี

16. นายวิโรจน์ กมลพันธ์

เป็นรัฐมนตรี

ประกาศเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2489

คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2489 และได้รับความไว้วางใจในวันเดียวกัน

คำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีคณะนี้ ปรากฎในหนังสือราชกิจจานุเบกษา พ.ศ. 2489 เล่ม 63 ตอน 42 หน้า 4

หมายเหตุ นายปรีดี พนมยงค์ เป็นนายกรัฐมนตรี ประกาศพระบรมราชโองการลงวันที่ 8 มิถุนายน 2489 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เป็นผู้ทรงลงพระปรมาภิไธยในประกาศ พันตรี วิลาศโอสถานนท์ ประธานพฤฒสภา และนายเกษม บุญศรี ประธานสภาผู้แทนฯ เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการโดยที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ได้เสด็จสวรรคต นายปรีดี พนมยงค์ นายกรัฐมนตรีจึงได้กราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่งและโดยที่เห็นว่า นายปรีดี พนมยงค์ เป็นผู้ที่สมควรไว้วางพระราชหฤทัย ที่จักได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จึงได้มีการแต่งตั้ง นายปรีดี พนมยงค์ เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ในวันที่ 11 มิถุนายน
2489 คณะรัฐมนตรีคณะนี้สิ้นสุดลง เพราะเหตุที่นายกรัฐมนตรีได้กราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่งเนื่องด้วยตรากตรำทำงานฉลองคุณประเทศชาติมาเป็นเวลาพอสมควร รู้สึกว่าสุขภาพเสื่อมโทรมลง ไม่สามารถจะปฏิบัติภารกิจของรัฐได้เต็มที่ จึงได้ลาออกเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2489

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของท่านได้โดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ (Functional Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ เพื่อจดจำตัวเลือกต่างๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรียังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และ ไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

บันทึกการตั้งค่า