ลำดับความเป็นมาของคณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 9


 (๒๑ ธันวาคม ๒๔๘๑ – ๗ มีนาคม ๒๔๘๕)

นายพันเอก หลวงพิบูลสงคราม (แปลก พิบูลสงคราม) เป็นนายกรัฐมนตรี ประกาศ
พระบรมราชโองการ ลงวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๔๘๑ คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ประกอบด้วย
พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) และนายพลเอก เจ้าพระยาพิชเยนทรโยธิน
(อุ่น อินทรโยธิน) ลงนามในประกาศ พระยามานวราชเสวี (ปลอด ณ สงขลา) ประธานสภาผู้แทนราษฎร
เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ และในวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๔๘๑ มีการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ดังนี้

รายชื่อคณะรัฐมนตรี

๑. นายพันเอก หลวงพิบูลสงคราม (แปลก พิบูลสงคราม)

เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

๒. หลวงประดิษฐ์มนูธรรม (ปรีดี พนมยงค์)

เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

๓. เจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ (จิตร์ ณ สงขลา)

เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

๔. นายนาวาอากาศเอก พระเวชยันต์รังสฤษฎ์ (มุนี มหาสันทนะ)

เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการ

๕. นายนาวาเอก หลวงสินธุสงครามชัย (สินธุ์ กมลนาวิน)

เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมการ

๖. หลวงโกวิทอภัยวงศ์ (ควง อภัยวงศ์)

เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงธรรมการ

๗. นายพันเอก หลวงพิบูลสงคราม (แปลก พิบูลสงคราม)

เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

๘. นายพันตำรวจเอก หลวงอดุลเดชจรัส (มิ่ง พึ่งพระคุณ)

เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

๙. นาวาเอก หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ (ถวัลย์ ธารีสวัสดิ์)

เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

๑๐. นายพันเอก พระบริภัณฑ์ยุทธกิจ (เภา เพียรเลิศ)

เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการ

๑๑. นายนาวาอากาศเอก หลวงกาจสงคราม (เทียน เก่งระดมยิง)

เป็นรัฐมนตรี

๑๒. หลวงชำนาญนิติเกษตร (อุทัย แสงมณี)

เป็นรัฐมนตรี

๑๓. นายพันตรี หลวงเชวงศ์ศักดิ์สงคราม (ช่วง ขวัญเชิด)

เป็นรัฐมนตรี

๑๔. นายดิเรก ชัยนาม

เป็นรัฐมนตรี

๑๕. หลวงเดชสหกรณ์ (หม่อมหลวงเดช สนิทวงศ์)

เป็นรัฐมนตรี

๑๖. นายตั้ว ลพานุกรม

เป็นรัฐมนตรี

๑๗. หลวงนฤเบศร์มานิต (สงวน จูทะเตมีย์)

เป็นรัฐมนตรี

๑๘. นายนาวาโท หลวงนาวาวิจิต (ผัน อำไภวัลย์)

เป็นรัฐมนตรี

๑๙. นายพันโท ประยูร ภมรมนตรี

เป็นรัฐมนตรี

๒๐. นายพันเอก หลวงพรหมโยธี (มังกร พรหมโยธี)

เป็นรัฐมนตรี

๒๑. หลวงวิจิตรวาทการ (วิจิตร วิจิตรวาทการ)

เป็นรัฐมนตรี

๒๒. ขุนสมาหารหิตะคดี (โป๊ โปรคุปต์)

เป็นรัฐมนตรี

๒๓. นายพันเอก หลวงสฤษฏิ์ยุทธศิลป์ (เพียร พิริยะโยธิน)

เป็นรัฐมนตรี

๒๔. นายนาวาโท หลวงสังวรยุทธกิจ (สังวรณ์ สุวรรณชีพ)

เป็นรัฐมนตรี

๒๕. นายพันเอก หลวงเสรีเริงฤทธิ์ (จรูญ รัตนกุล)

เป็นรัฐมนตรี

ประกาศเมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๔๘๑

คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๔๘๑ และได้รับความไว้วางใจในวันเดียวกัน

คำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีคณะนี้ ปรากฎในหนังสือราชกิจจานุเบกษา พ.ศ. ๒๔๘๑ เล่ม ๕๕ หน้า ๓๓๑๘

คณะรัฐมนตรีชุดนี้มีการเปลี่ยนแปลง คือ
๑. พันเอก หลวงพรหมโยธี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม
หลวงนฤเบศร์มานิต เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
เมื่อวันที่ ๑๓ เมษายน ๒๔๘๒
๒. เจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
กราบถวายบังคมลาออก เนื่องจากสุขภาพไม่สมบูรณ์
เมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๔๘๒
๓. ตั้งนายพลตรี หลวงพิบูลสงคราม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
นายดิเรก ชัยนาม เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๔๘๒
๔. นายพันตรี หลวงเชวงศักดิ์สงคราม เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
นายวิลาศ โอสถานนท์ เป็นรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ ๔ สิงหาคม ๒๔๘๒
๕. นายพันเอก หลวงเสรีฤิทธิ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐการ
เมื่อวันที่ ๖ กันยายน ๒๔๘๒
๖. ให้หลวงชำนาญนิติเกษตรพ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดินและโลหกิจ และแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการ
กระทรวงยุติธรรม
เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๔๘๔
๗. นายพันเอก หลวงเกรียงศักดิ์พิชิต (ค้วน จินตะคุณ) เป็นรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๔๘๔
๘. เนื่องจากประกาศใช้พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวงทบวงกรม พ.ศ. ๒๔๘๔ จึงแต่งตั้งรัฐมนตรีเพื่อ
บริหารราชการให้เหมาะสม คือ
นายพลโท หลวงพรหมโยธี (มังกร พลโยธิน) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แทนจอมพล หลวงพิบูลสงคราม
นายพันเอก พระบริภัณฑ์ยุทธกิจ (เภา เพียรเลิศ) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ
นายพลตรี หลวงเสรีเริงฤทธิ์ (จริญ รัตนกุล) เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ
นายพันตรี หลวงโกวิทอภัยวงศ์ (ควง อภัยวงศ์) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
นายพลเรือโท หลวงสินธุสงครามชัย (สินธุ์ กมลนาวิน) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
นายพันเอก ประยูร ภมรมนตรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๔๘๔
๙. หลวงเดชสหกรณ์ (หม่อมหลวงเดช สนิทวงศ์) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการ
นายพันตรี วิลาศ โอสถานนท์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
เมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๔๘๔
๑๐. นายดิเรก ชัยนาม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แทนจอมพล หลวงพิบูลสงคราม
นายพันตรี หลวงเชวงศักดิ์สงคราม (ช่วง ขวัญเชิด) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
แทน จอมพล หลวงพิบูลสงคราม
เมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๔๘๔
๑๑. นายตั้ว ลพานุกรม รัฐมนตรี ได้ถึงแก่อนิจกรรม
เมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๔๘๔
๑๒. นายพลตรี หลวงเสรีเริงฤทธิ์ (จรูญ รัตนกุล) เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และ
พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเศรษฐกิจ
หลวชำนาญนิติเกษตร (อุทัย แสงมณี) เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเศรษฐกิจ และ
ให้พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรม
ขุนสมาหารหิตะคดี (โป๊ โปรคุปต์) เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
เมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๔๘๔
๑๓. หลวงวิจิตรวาทการ (วิจิตร วิจิตรวาทการ) เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๔๘๔
๑๔. จอมพล แปลก พิบูลสงคราม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
จอมพล แปลก พิบูลสงคราม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
นายพลโท มังกร พรหมโยธี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม
นายดิเรก ชัยนาม เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๔๘๔
๑๕. นายปรีดี พนมยงค์ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยได้รับแต่งตั้งเป็น
ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
นายวิลาศ โอสถานนท์ ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๔๘๔
๑๖. นายพลตรี เภา เพียรเลิศ บริภัณฑ์ยุทธกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ เป็น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอีกตำแหน่งหนึ่ง
เมื่อวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๔๘๔
๑๗. นายวนิช ปานะนนท์ เป็นรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๔๘๔
๑๘. นายดิเรก ชัยนาม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
กราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากได้รับแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตประจำประเทศญี่ปุ่น
เมื่อวันที่ ๕ มกราคม ๒๔๘๕
๑๙. นายพลตรี พิชิต เกรียงศักดิ์พิชิต เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๔๘๕
๒๐. นายอุทัย แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตราธิการ
หม่อมหลวงเดช สนิทวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตราธิการ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเศรษฐกิจ
ตั้งแต่วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๕
เมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๕
๒๑. พลตรี เภา เพียรเลิศ บริภัณฑ์ยุทธกิจ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ คงดำรง
ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตำแหน่งเดียว
พลเรือโท สินธุ์ กมลนาวิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ
จอมพล แปลก พิบูลสงคราม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อีกตำแหน่งหนึ่ง
เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๕
๒๒. นายทวี บุณยเกตุ เป็นรัฐมนตรี
พลอากาศตรี บุญเจียม โกมลมิตร์ เป็นรัฐมนตรี
พลตรี สวัสดิ์ สวัสดิ์รณรงค์ เป็นรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๕

หมายเหตุ คณะรัฐมนตรีคณะนี้สิ้นสุด เพราะเหตุที่นายกรัฐมนตรีและคณะได้กราบถวายบังคมลาออก
จากตำแหน่ง เพื่อที่จะให้โอกาสได้มีการเปลี่ยนแปลงคณะรัฐมนตรีเสียใหม่ให้เป็นการเหมาะสมแก่สถานการณ์ปัจจุบัน
เมื่อวันที่ ๖ มีนาคม ๒๔๘๕

ประกาศเมื่อวันที่ ๗ มีนาคม ๒๔๘๕

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของท่านได้โดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ (Functional Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ เพื่อจดจำตัวเลือกต่างๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรียังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และ ไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

บันทึกการตั้งค่า