กฏหมายสำคัญในราชกิจจานุเบกษา


ชื่อเรื่อง พระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๐

หัวข้อ รายละเอียด
สาระสำคัญ ๑. การปฏิรูปประเทศ ต้องดำเนินการโดย

๑.๑ ให้บรรลุเป้าหมายของการปฏิรูปประเทศตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๕๗ ของร่างรัฐธรรมนูญ

๑.๒ กำหนดด้านที่ต้องจัดให้มีการปฏิรูปประเทศ ได้แก่ ด้านการเมือง ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ด้านกฎหมาย ด้านกระบวนการยุติธรรม ด้านการศึกษา ด้านเศรษฐกิจ ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านสาธารณสุข (ด้านตามมาตรา ๒๕๘ ของร่างรัฐธรรมนูญ) รวมทั้งต้องจัดให้มีการปฏิรูปในด้านสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านสังคม และด้านอื่นตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด

๑.๓ ต้องสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับยุทธศาสตร์ชาติ

๒. กำหนดขั้นตอนการจัดทำร่างแผนการปฏิรูปประเทศ ดังนี้

๒.๑ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศแต่ละด้านจัดทำร่างแผนการปฏิรูปประเทศในด้านที่รับผิดชอบแล้วเสนอต่อที่ประชุมร่วมเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ

๒.๒ ที่ประชุมร่วมเสนอคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเพื่อพิจารณาความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บท

๒.๓ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ

๒.๔ รายงานต่อรัฐสภาเพื่อทราบ และประกาศในราชกิจจานุเบกษาและใช้บังคับต่อไป

๓. การดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศ

๓.๑ เมื่อแผนการปฏิรูปประเทศใช้บังคับแล้ว ก็มีสภาพบังคับให้หน่วยงานของรัฐทุกหน่วยมีหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามแผนการปฏิรูปประเทศตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแผนการปฏิรูปประเทศ โดยมีคณะรัฐมนตรีทำหน้าที่กำกับดูแลและสนับสนุนให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการ

๓.๒ หากมีเหตุจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงแผนการปฏิรูปประเทศด้านใด เพราะมีการแก้ไขเพิ่มเติมยุทธศาสตร์ชาติหรือแผนแม่บทหรือเหตุอื่นใด ก็สามารถแก้ไขปรับปรุงแผนการปฏิรูปประเทศด้านนั้นได้ โดยให้คณะรัฐมนตรีแจ้งให้คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านนั้นดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว

๔. กำหนดกลไกการติดตาม การตรวจสอบ และการประเมินผลการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศ

๕. กำหนดการมีส่วนร่วมและการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทุกภาคส่วนอย่างทั่วถึง โดยกำหนดให้ขั้นตอนการจัดทำร่างแผนการปฏิรูปประเทศ ต้องมีการรับฟังความคิดเห็น และในขั้นตอนการติดตาม การตรวจสอบ และการประเมินผลต้องเผยแพร่รายงานให้ประชาชนทราบ และจัดให้มีวิธีการที่ประชาชนสามารถแจ้งเหตุได้โดยรวดเร็ว

๖. บทเฉพาะกาล ได้กำหนดบทเฉพาะรองรับการดำเนินการในวาระเริ่มแรก

เพื่อให้การดำเนินการปฏิรูปประเทศเป็นไปตามกำหนดเวลาที่บัญญัติไว้ในหมวด ๑๖ การปฏิรูปประเทศ ของรัฐธรรมนูญ รวมทั้งกำหนดให้นำรายงานผลการศึกษาและข้อเสนอแนะที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปประเทศของสภาปฏิรูปแห่งชาติ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ คณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศ คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ได้จัดทำขึ้นก่อนวันที่ร่างพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ มาใช้ประกอบการพิจารณาจัดทำร่างแผนการปฏิรูปประเทศด้วย และให้ถือว่าการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อเสนอแนะดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการรับฟังความคิดเห็นในการจัดทำร่างแผนการปฏิรูปประเทศตามพระราชบัญญัตินี้ เพื่อให้การปฏิรูปประเทศมีความต่อเนื่อง
ผู้ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย ๑. คณะกรรมการปฏิรูปประเทศแต่ละด้าน มีหน้าที่จัดทำร่างแผนการปฏิรูปประเทศ โดยมีสำนักงาน
คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ
๒. หน่วยงานของรัฐทุกหน่วย มีหน้าที่ดำเนินการให้เป็นไปตามแผนการปฏิรูปประเทศ
๓. คณะรัฐมนตรี ทำหน้าที่กำกับดูแลและสนับสนุนให้หน่วยงานของรัฐทุกหน่วยดำเนินการให้เป็นไปตามแผนการปฏิรูปประเทศ
วันที่มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๐
ดาวน์โหลดไฟล์

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของท่านได้โดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ (Functional Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ เพื่อจดจำตัวเลือกต่างๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรียังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และ ไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

บันทึกการตั้งค่า